xs
xsm
sm
md
lg

ฆ่าตัดตอนคดีสร้างหนี้เทียม POLAR / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพิ่งได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการจากนักลงทุนในตลาดหุ้น เกี่ยวกับคดี บริษัท โพลาริส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ว่า อัยการมีความเห็น สั่งไม่ฟ้องอดีตกรรมการบริษัทและพวกรวม 11 ราย ในความผิดสร้างหนี้เทียมจำนวน 3.6 พันล้านบาท

คดีหุ้น POLAR ถ้าปิดฉากลง โดยอดีตผู้บริหารบริษัท ฯ ทั้งชุด หลุดรอดลอยนวล ไม่ถูกดำเนินคดีในความผิด ไม่ต้องรับโทษใด ตามดุลพินิจอัยการ ซึ่งสั่งไม่ฟ้อง ตัดตอนคดีโดยไม่ถูกนำส่งเข้าสู่การพิจารณาในขั้นศาล คงเป็นเรื่องที่สร้างความสลดหดหู่ให้นักลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องวิบัติไปกับหุ้นตัวนี้

แม้ว่าหุ้น POLAR จะถูกตะเพิดพ้นจากตลาดหุ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้ภายในระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด แต่ทิ้งตำนานแห่งความฉ้อฉล พฤติกรรมของอภิมหาโกง สร้างความวายวอดให้นักลงทุนต้องจดจำไว้จนวันตาย

POLAR แปลงร่างมาจาก บริษัท นครหลวงเส้นใย จำกัด (มหาชน) หรือ HTX ซึ่งเข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2533 ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ LL และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น บริษัท วธน แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ WAT

แต่ไม่ว่าจะแปลงร่างหรือเปลี่ยนชื่อเป็นอย่างไร พฤติกรรมหุ้น POLAR ไม่เคยเปลี่ยน สร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่เข้าไปซื้อหุ้นอยู่เรื่อยมาโดยเงินของบริษัท ฯ ถูกยักย้ายถ่ายเท จนกิจการต้องล่มสลาย ผู้ถือหุ้นจำนวนนับหมื่นคน ต้องหมดตัว

ธุรกรรมการถ่ายเทเงินที่กระทำกันซึ่งหน้า ไม่อายใครคือ การวางมัดจำซื้อ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เจ้าของนิตยสาร A DAY จำนวนเงิน 120 ล้านบาท และวางมัดจำซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกจำนวนเงิน 350 ล้านบาท จากมูลค่าที่ดินที่จะซื้อจำนวนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งต่อมายกเลิกการซื้อ

แต่เงินมัดจำทั้งสองรายการรวม 470 ล้านบาท ไม่ได้รับชำระคืน และไม่รู้ถูกโยกเข้ากระเป๋าใคร

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้กล่าวโทษกรรมการ POLAR ประกอบด้วย นายญาณกร วรากุลรักษ์ นายพูนศักดิ์ ชุมช่วย นายอาสา นินนาท นายฐากร ทวีศรี นายดนุช บุนนาคและพวกรวม 11 คน เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 ในความผิดสร้างหนี้เทียมจำนวน 3.6 พันล้านบาท

และเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอเคยแถลงว่า การสอบสวนคดี POLAR แล้วเสร็จ โดยได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงายอัยการ สำนักงานคดีพิเศษแล้ว แต่ต่อมาอธิบดี ดีเอสไอ ได้มีความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด จนล่าสุดเพิ่งมีข่าวว่า อัยการสั่งไม่ฟ้อง

ถ้าย้อนเวลาไปสัก 2-3 ปีก่อน และถ้าคดีสร้างหนี้เทียม POLAR เป็นคดีที่อึกทึกครึกโครม ประชาชนให้ความสนใจในวงกว้าง เช่นเดียวกับคดีทุจริตและหุ่นหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE และคดีแต่งบัญชีหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK คดี POLAR คงไม่ปิดฉากด้วยความน่าอนาถ

คดีอาชญากรรมร้ายแรงในตลาดหุ้น สร้างหายนะให้ประชาชนผู้ลงทุนนับหมื่นนับแสนลง โดยอาชญากรลอยนวล ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ไม่ต้องรับโทษใด ๆ เพราะคดีมักถูกตัดตอน ไม่ถูกนำส่งเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล

คดีความผิดร้ายแรงในตลาดหุ้น กระบวนการพิจารณาคดี ควรเป็นไปอย่างเปิดเผย โปร่งใส และสาธารณะชนสามารถตรวจสอบได้ ตั้งแต่ในชั้นสอบสวน อัยการ จนนำส่งคดีเข้าสู่การตัดสินในชั้นศาล

แต่ที่ผ่านมา คดีไซฟ่อนผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน คดี่ปั่นหุ้น กลับกลายเป็นคดีลับ จนมีการตั้งข้อสังเกตในความลับลมคมในของและหน่วยงาน โดยหลังจาก ก.ล.ต.ร้องทุกข์แล้ว คดีมักเงียบหาย เช่นเดียวกับคดีสร้างหนี้เทียม POLAR

เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่มีคำแถลงจากอัยการว่า คดีมีความคืบหน้าถึงไหน ใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องเพราะเหตุใด และทำไมจึงไม่แถลงให้สาธารณชนรับทราบ

ภาพจำอันอุบาทว์ การฆ่าตัดตอนคดีร่ายแรงในตลาดหุ้นกำลังกลับมาอีกครั้ง โดยคดี POLAR เป็นการตอกย้ำว่า

อาชญากรในตลาดหุ้นมักลอยนวลเสมอ ไม่ต้องชดใช้กรรมใดๆที่ก่อไว้กับประชาชนผู้ลงทุน นี่แหละเป็นเรื่องเศร้าที่ผู้ถือหุ้นรายย่อย POLAR ต้องจำจนวันตาย








กำลังโหลดความคิดเห็น