นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.00-32.75 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.45 บาท/ดอลลาร์ จากระดับเปิดเช้านี้ (1ก.ย.68)ที่ 32.32 บาทต่อดอลลาร์
“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.39 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์สัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง เข้าใกล้โซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.28-32.43 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ซึ่งมาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านสำคัญของราคาทองคำ (XAUUSD) หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ล่าสุด ไม่ได้เร่งตัวสูงขึ้นกว่าคาด ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดต่างยังคงกังวลต่อแนวโน้มการเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟด โดยฝั่งการเมืองสหรัฐฯ ทำให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ยังคงเผชิญแรงกดดัน หลังผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ท่ามกลางความกังวลการเข้าแทรกแซงเฟดจากฝั่งการเมืองสหรัฐฯ
สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอติดตาม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงาน พร้อมติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด
สำหรับ แนวโน้มเงินบาท สำหรับ แนวโน้มเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk (เคลื่อนไหวได้ทั้งด้านอ่อนค่าและแข็งค่า) ตามการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดซึ่งจะขึ้นกับ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด นับจากวันนี้ จนเข้าใกล้การประชุม FOMC เดือนกันยายน (รับรู้วันที่ 18 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย)
โดยเรามองว่า เงินบาทมีความเสี่ยงอ่อนค่าลงได้ หากผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะในช่วงที่ ราคาทองคำ (XAUUSD) ได้ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านสำคัญ 3,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ ความวุ่นวายของการเมืองไทย อาจกระทบต่อฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติและสร้างความผันผวน รวมถึงแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทได้ อนึ่ง ในกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าลงนั้น เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาท (USDTHB) ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทมีการอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์(แนวต้านถัดไป 32.65-32.70) ในทางกลับกัน เงินบาทยังพอมีแนวรับแถวโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ และมีโซนแนวรับถัดไปในช่วง 32.10 บาทต่อดอลลาร์
อนึ่ง เมื่อประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะกลับมาอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน (หรืออ่อนค่าทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน)
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์เสี่ยงผันผวนสูง ตามการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด และยังคงเผชิญ Two-way risk (พร้อมเคลื่อนไหวได้สองทิศทาง) ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ