กองทุนเฮดจ์ฟันด์ Numerai ที่ใช้โมเดล AI และคราวด์ซอร์ส ได้เงินหนุน 500 ล้านดอลลาร์จาก JPMorgan กลายเป็นดีลใหญ่ที่สะท้อนการเคลื่อนทัพของสถาบันวอลล์สตรีทสู่คริปโตและ AI อย่างเป็นรูปธรรม กองทุนที่เคยโตจากนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลทั่วโลกกำลังขยับชั้นสู่ผู้เล่นระดับโลก ขณะที่การลงทุนครั้งนี้อาจพลิกโฉมทิศทางการผสานรวมเทคโนโลยีการเงินแห่งอนาคต
Numerai เฮดจ์ฟันด์ซึ่งมีชื่อเสียงจากการใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการระดมสมองจากนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลทั่วโลก ได้รับเงินทุนสนับสนุนสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ จาก JPMorgan Asset Management นับเป็นการเสริมสภาพคล่องที่สามารถขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้มากกว่าสองเท่าทันที และย้ำชัดถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ต่อผู้จัดการสินทรัพย์ที่เป็นมิตรกับคริปโต
Numerai ระบุว่า เงินทุนก้อนนี้จะถูกจัดสรรใช้งานภายในปีหน้า โดยผลตอบแทนของกองทุนจะพึ่งพาโมเดลการซื้อขายที่สร้างจาก “ข้อมูลคราวด์ซอร์ส” ของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลหลายพันคนทั่วโลก ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2015 กองทุนสามารถขยายสินทรัพย์ได้กว่า 450 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และสร้างผลตอบแทนสุทธิปี 2567 ได้ถึง 25% ผ่านกลยุทธ์ที่ผสาน AI–คริปโต–และการลงทุนเชิงปริมาณ
นอกจากนี้ Numerai ยังมีเหรียญดิจิทัลของตนเองชื่อ Numeraire (NMR) ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2560 ล่าสุดเริ่มโครงการซื้อคืนมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ และหลังประกาศการสนับสนุนจาก JPMorgan ราคาของ NMR พุ่งทะยานกว่า 38% สู่ระดับ 11.40 ดอลลาร์ ปริมาณซื้อขายพุ่งแรงถึง 880% ภายในวันเดียว ตามข้อมูลการรายงานของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตามแม้ JPMorgan ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นตรง ๆ ต่อดีลนี้ แต่ทิศทางของธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งวอลล์สตรีทชัดเจนว่า “เอาจริง” กับสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับ Coinbase เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการซื้อขายคริปโต และมีรายงานว่ากำลังศึกษาการออก Stablecoin รวมถึงการปล่อยกู้โดยใช้คริปโต เช่น Bitcoin และ Ether เป็นหลักประกัน
การผสานคริปโตและ AI กลายเป็นเทรนด์ใหม่ของตลาดโลก
กรณี Numerai ไม่ใช่เหตุการณ์เดี่ยว แต่สะท้อนแนวโน้มการบูรณาการ AI และบล็อกเชนที่เริ่มลุกลามไปในหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มนักขุด Bitcoin รายใหญ่ อาทิ Hive Digital, Hut 8, TeraWulf และ IREN ที่ปรับกลยุทธ์นำทรัพยากรไปสู่เวิร์กโหลดด้าน AI และการประมวลผลสมรรถนะสูง เพื่อสร้างรายได้ใหม่แทนการพึ่งพาการขุดเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกัน DNA Fund นักลงทุนรายสำคัญในคริปโต ย้ำชัดว่า AI แบบกระจายอำนาจคือ “แกนกลางของสิ่งที่กำลังทำอยู่” โดยมุ่งเน้นไปที่ Bittensor เครือข่าย Machine Learning แบบกระจายศูนย์ที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว 3.2 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ดีล Numerai–JPMorgan ไม่เพียงแค่เป็นการเพิ่มทุน แต่คือ “สัญญาณเปลี่ยนเกม” ที่บ่งชี้ว่า วอลล์สตรีทไม่อาจเมินคริปโตและ AI ได้อีกต่อไป หาก UNCTAD คาดการณ์ถูกต้องว่า AI จะกลายเป็นภาคเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกภายในทศวรรษหน้า การผสานกับคริปโตย่อมเร่งให้ตลาดการเงินโลกเปลี่ยนทิศเร็วขึ้นกว่าที่คาด และใครที่ลงมือก่อนย่อมมีแต้มต่อในการครอบครอง “ทุนแห่งอนาคต”