xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.43-แกว่งในกรอบ Sideways -รอลุ้นปัจจัยใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(27ส.ค.68) ที่ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.49 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้างในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 32.42-32.50 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) เข้าใกล้โซนแนวต้าน 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะในปีหน้า ที่ล่าสุด ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสราว 21% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 4 ครั้ง (ส่วนในปีนี้ ผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินเฟดมีโอกาสราว 16% ที่จะลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้ง) จากประเด็นความกังวลต่อแนวโน้มการเข้าแทรกแซงการทำงานของเฟด โดยฝั่งการเมืองสหรัฐฯ

ทั้งนี้ แม้ว่าโดยรวมเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways และยังพอได้แรงหนุนจากอานิสงส์ของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่ออกมาสดใสและดีกว่าคาด อาทิ ยอดคำสั่งซื้อพื้นฐานสินค้าคงทน ซึ่งไม่รวมอากาศยานและอาวุธ (Core Durable Goods ex. Air & Defense) ในเดือนกรกฎาคม ปรับตัวขึ้น +1.1%m/m ดีกว่าคาด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Conference Board Consumer Confidence) เดือนสิงหาคม แม้จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 97.4 จุด แต่ก็ดีกว่าคาดที่ระดับ 96.4 จุด

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ แม้จะมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ไม่มากนัก ทว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะมีไฮไลท์สำคัญ คือ Nvidia ที่อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินและทิศทางของบรรดาหุ้นเทคฯ ธีม AI/Semiconductor ได้

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ไปก่อน หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของรายงานผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในช่วงปกติ หรือ ช่วง After Close โดยหากบรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ก็อาจจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งจะช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้

นอกจากนี้ ในช่วงระยะสั้น นอกเหนือจากปัจจัยแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟด เงินดอลลาร์อาจผันผวนไปตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินหลัก อย่าง เงินยูโร (EUR) ที่อาจเผชิญแรงกดดันจากความวุ่นวายของการเมืองฝรั่งเศสได้ หลังนายกฯ ฝรั่งเศส ได้กำหนดวันลงมติไว้วางใจ ในวันที่ 8 กันยายน นี้ ซึ่งมีโอกาสสูงที่เสียงส่วนใหญ่จะไม่เห็นชอบกับมติไว้วางใจดังกล่าว และนำไปสู่การลาออกของนายกฯ François Bayrou โดยหลังจากนั้น ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron จะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะคัดเลือกนายกฯ ใหม่ หรือประกาศยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ เราประเมินว่า ประธานาธิบดี Emmanuel Macron อาจเลือกประกาศยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยอาจมีการเลือกตั้งเร็วสุดในช่วงเดือนตุลาคม ทำให้ในระยะสั้นนี้ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส อาจกดดันสินทรัพย์ฝั่งยุโรป โดยเฉพาะเงินยูโร (EUR) ได้ และอาจพอช่วยหนุนเงินดอลลาร์บ้าง

อย่างไรก็ดี เรามองว่า สุดท้ายทิศทางของเงินดอลลาร์อาจขึ้นกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ทั้ง อัตราเงินเฟ้อ PCE ที่จะรับรู้ในสัปดาห์นี้ และข้อมูลการจ้างงานเดือนสิงหาคม ซึ่งจะรับรู้ในสัปดาห์หน้า โดยข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้อย่างมีนัยสำคัญ

เราประเมินว่า หากเงินบาทจะกลับมาอ่อนค่าลงได้ชัดเจนอีกครั้ง อาจต้องรอรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงาน เพื่อรอลุ้นโอกาสที่ผู้เล่นในตลาดจะปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างชัดเจน หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง การจ้างงานยังคงออกมาสดใสหรือดีกว่าคาด โดย หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following การอ่อนค่าอย่างชัดเจนของเงินบาททะลุโซน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ จะเพิ่มโอกาสที่เงินบาทกลับเข้าสู่แนวโน้มการอ่อนค่าลงอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น