ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงต้นสัปดาห์นี้ บรรยากาศการลงทุนกลับสู่ความคึกคัก ดัชนี ฯ ตีฝ่าแนวต้านระดับ 1250 จุดขึ้นมาอีกครั้ง และมีแนวโน้มว่าจะเป็นขาขึ้นรอบใหม่ แต่ไปต่อไม่ได้ไกล เพราะแจงแรงต้านจากการเทขายทำกำไร โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่มีการขายต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์
สถานการณ์ทางการเมืองที่คลายตัว หลังนายทักษิณ ชินวัตร หลังศาลตัดสินยกฟ้องคดี 112 ทำให้นักลงทุนในประเทศเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา และยังมีแรงซื้อต่อถึงวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม ผลักดันให้ดัชนี ฯ ทะยานขึ้นกว่า 10 จุด ในระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ก่อนอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1262.67 จุด เพื่มขึ้น 9.28 จุด มูลค่าซื้อขาย 39,908 ล้านบาท
หุ้นวันจันทร์ที่ยังวิ่งต่อ เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นเขียวขจี จากความคาดหวัง ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED จะพิจารณาลดดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนกันยายนนี้ และถือเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้หุ้นขยับได้อีกเฮือก
แต่ถ้าไม่มีปัจจัยข่าวดีใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้น หุ้นอาจไม่ได้ไปต่อ เพราะราคาหุ้นขนาดใหญ่ ปรับตัวขึ้นกันครบทุกกลุ่มแล้ว ราคาจะเริ่มอืด ดัชนี ฯ จึงอาจไม่พุ่งทะยานอย่างร้อนแรง ขณะที่นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางลง จากวันละ 5-7 หมื่นล้านบาท ลดเหลือระดับ 3-4 หมื่นล้านบาทต่อวัน
ครึ่งปีหลัง หรือ 4 เดือนเศษนับจากนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์สำนักต่าง ๆ มองบรรยากาศการลงทุนไม่สดใสนัก เพราะการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากภาษีตอบโต้การค้าของสหรัฐ 19% เศรษฐกิจในประเทศยังฟุบ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ต่ำกว่าความคาดหมาย จึงประเมินดัชนี ฯ ปลายปีไว้ที่ระดับประมาณ 1280-1300 จุด
โบรกเกอร์ที่มองโลกสวย มองดัชนี ฯ ปลายปีสูงสุดที่ 1350 จุดเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาคือ นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้จุดพลุความคึกคักของตลาดหุ้นรอบนี้ โดยกลับมาไล่ซื้อหุ้น ตลอดเดือนกรกฎาคม ที่ยอดซื้อหุ้นสุทธิกว่า 16,000 ล้านบาท หนุนดัชนี ฯ ขยับขึ้นมากว่า 200 จุด
แต่ต่างชาติหยุดซื้อแล้ว และกำลังทยอยขายหุ้นออก โดยซื้อครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม จำนวน 105 ล้านบาท หลังจากนั้นขายมาตลอด มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่วัน ทำให้ยอดขายหุ้นสุทธิสะสมของต่างชาติในเดือนสิงหาคม สิ้นสุดวันที่ 25 สิงหาคม มีจำนวนทั้งสิ้น 9,856 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายหุ้นสะสมตั้งแต่ต้นปีมีจำนวนรวม 72,407 ล้านบาท
แม้ต่างชาติจะเทขายหุ้นออกมาไม่มาก แต่ถ้าไม่หวนกลับมาซื้ออย่างมีนัยสำคัญเหมือนเดือนกรกฎาคม หุ้นคงไปต่อลำบาก เพราะแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศอ่อนแอ มีแต่นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนในประเทศเท่านั้น ที่โหมซื้อในบางช่วงเวลา แต่ไม่ได้ซื้ออย่างสม่ำเสมอ เพราะเงินในพอร์ตเหลืออยู่จำกัด
ตลาดหุ้นเริ่มตื้อ ๆ แล้ว เพดานขาขึ้นดูเหมือนจะตีบตันลง ขณะที่แรงขายของต่างชาติ กำลังเป็นตัวบั่นทอนหรือเหนี่ยวรั้งไม่ให้ดัชนี ฯ เดินหน้าต่อ จนความหวังที่จะได้เห็นดัชนี ฯ รอบนี้วิ่งไปชนเป้า 1300 จุดแทบไม่มีความเป็นไปได้
อาจมีหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังพอไปได้ เพราะมีปัจจัยหนุนเฉพาะกลุ่ม แต่สำหรับบรรยากาศโดยรวมของตลาดหุ้น ขาดแคลนข่าวดีที่จะกระตุ้นให้ดัชนี ฯ เดินหน้าต่อ
ระยะสั้นอาจมีคดีคลิปเสียงระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวันที่ 29 สิงหาคมนี้ และอาจชี้นำตลาดอยู่บ้าง
แต่การทยอยถอยทัพ เทขายหุ้นของต่างชาติ จะเป็นตัวกดดันให้ตลาดหุ้นถูกตรึงอยู่แถวดัชนี ฯ 1250 จุด จนกว่าจะมีข่าวดีใหม่เข้ามากระตุ้น หุ้นจึงวิ่งอีกรอบ