ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC)ระบุมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.ค. 2568 ยังขยายตัวสูง 11% มูลค่า 28,580.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐชะลอลงบ้างจาก 15.5%YOY ในเดือนก่อน โดยภาพรวมมูลค่าส่งออกไทยช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ยังขยายตัวสูงที่ 14.4% ทั้งนี้ จากข้อมูลส่งออก 7 เดือนแรกของปีนี้ที่ออกมาดีกว่าคาดต่อเนื่อง SCB EIC จึงปรับประมาณการมูลค่าส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัว 3.0% จากเดิมที่ -0.1% และปี 2569ประเมินมูลค่าการส่งออกไทยมีแนวโน้มหดตัว -1.5% โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกจากปัจจัยฐานสูง
อย่างไรก็ตาม ประเมินการส่งออกจะชะลอลงในไตรมาส 3 และหดตัวสูงในไตรมาส 4 ขณะที่มุมมองส่งออกไทยปี 2569 จะหดตัวโดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรก โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 1) นโยบายการค้าโลกที่มีความชัดเจนมากขึ้น ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ลดลง (หลังสหรัฐฯ ขยายข้อตกลงเก็บภาษีนำเข้าจีนในอัตรา 30% ชั่วคราวต่ออีก 90 วัน จนถึงวันที่ 10 พ.ย.) ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโลกน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า 2) ไทยสามารถต่อรองลดอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ลงมาได้เกือบครึ่งเหลือ 19% 3) การส่งออกไทยขยายตัวสูงถึง 14.4% ในช่วง 7 เดือนแรกจากการเร่งส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังคงได้รับการยกเว้นภาษีเฉพาะเจาะจงสินค้า 4) ปัจจัยส่งออกทองคำพิเศษไปอินเดียที่เป็นแรงหนุนหลักในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ และ 5) ปัจจัยฐานต่ำในช่วงครึ่งปีแรกในปี 2567 มุมมองของ SCB EIC สอดคล้องกับกระทรวงพาณิชย์ที่มองว่า มูลค่าส่งออกไทยจะเริ่มชะลอตัวในเดือน ส.ค. และมีมุมมองมูลค่าส่งออกไทยปีนี้ขยายตัวในช่วง 2-3% และมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขอาจสูงกว่านี้
สำหรับความเสี่ยงด้านลบในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังหมดช่วงลดกำแพงภาษีสูงชั่วคราว อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงมากขึ้น รวมถึงกรณีหากสหรัฐฯ บังคับให้ใช้ Local content สูง อาจทำให้สินค้าไทยเสี่ยงถูกเก็บภาษี Transshipment 40% กระทบการส่งออกไทยรุนแรงขึ้น ขณะที่เงินบาทอาจมีแนวโน้มแข็งค่าสูงเทียบคู่แข่งในภูมิภาค ในช่วงที่ผ่านมาเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นมาก ดัชนีค่าเงินบาท (ณ วันที่ 22 ส.ค.) แข็งค่าขึ้น 6.6%YOY ขณะที่ค่าเงินของจีน, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้, อินเดียและเวียดนามอ่อนค่าลง อาจซ้ำเติมความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกไทยในช่วงที่จะต้องเผชิญกำแพงภาษีสหรัฐฯ และความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชาอาจยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น อาจส่งผลลบต่อการส่งออกไทยมากขึ้นในบางอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ อย่างไรก็ดี การส่งออกกลุ่มยานยนต์โดยรวมไปกัมพูชามีสัดส่วนไม่มากคิดเป็น 1% ของการส่งออกยานยนต์ไทยทั้งหมด
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุแม้การส่งออกไทยในช่วง 7 เดือนแรกขยายตัวได้ดีกว่าคาดที่ 14.4%YoY แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองต่อภาพรวมการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะยังเผชิญการหดตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ขณะที่ค่าระวางเรือในเดือนส.ค. ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนอุปสงค์โลกที่ชะลอลง และทั้งปียังคงประมาณการส่งออกไทยขยายตัวที่ 3.4% อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะล่าช้าออกไป ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของมาตรการภาษีภายใต้ section 232 และเกณฑ์เงื่อนไขเรื่อง transshipment ด้วย