xs
xsm
sm
md
lg

CGSI เพิ่มเป้า SET สิ้นปีนี้ที่ 1,320 จุด - EPS 81.5 บ. หลังการเมืองชัด -ดบ.ขาลงหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



CGSI ประกาศเพิ่มเป้า SET Index สิ้นปีเป็น 1,320 จุด จาก 1,280 จุด หลังมองการเมืองชัดเจนขึ้น และทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาลงช่วยหนุน และปรับเพิ่มประมาณการ EPS ปีนี้ขึ้น 1.3% เป็น 81.50 บาท ส่วนปี69 เป็น 87.4 บาท ส่วนงบไตรมาส 2/68 ที่ผ่านมา บจ.ทำกำไรสูงกว่าคาดถึง 22%

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI เปิดเผยว่า หลังฤดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/68 สิ้นสุดลง บริษัทได้ปรับประมาณการ EPS ของตลาดขึ้น 1.3% เป็น 81.5 บาทในปี 68 และ 0.7% เป็น 87.4 บาทในปี 69 เท่ากับว่าในปัจจุบันฝ่ายวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยจะมี EPS เติบโต 8% yoy ทั้งในปี 68 และปี 69 เทียบกับเติบโต 4% yoy ในปี 67

นอกจากนี้ ยังคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 68 จะมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเคยอยู่ที่ระดับ 0.50% ในเดือนพ.ค.63 -ส.ค.65 จึงเชื่อว่าธปท.จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกสองครั้งในปีนี้ หรือปรับลงครั้งละ 25bp ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. และ 17 ธ.ค.68 จะส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยลดลงจากปัจจุบัน 1.50% เหลือ 1.00%

 เพิ่มเป้า SET Index สิ้นปีเป็น 1,350 จุด

CGSI ประเมินว่า เมื่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองดีขึ้น โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้น จะส่งผลให้ดัชนี SET น่าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ธปท.มีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยลงอีก จึงปรับเป้าดัชนี SET สิ้นปี 68 ขึ้นจาก 1,280 จุด (-0.5SD จาก ค่าเฉลี่ย 10 ปี) เป็น 1,320 จุด ซึ่งจะเท่ากับ P/E 15.1x ในปี 69 หรือ -0.25SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปี

โดยเชื่อว่าภูมิทัศน์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย ส่วนการชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรุนแรง อาจทำให้ประมาณการมี downside risk

 เชียร์ 9 หุ้น เป็น Top Pick แต่เตือนระวังหุ้นกลุ่มแบงก์-อสังหาฯ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์ฯชอบกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, กลุ่มท่องเที่ยว, กลุ่มการแพทย์และกลุ่มสาธารณูปโภค โดยหุ้น Top picks คือAMATA, BDMS, CPN, ERW, GULF, MINT, MTC, PR9 และ TRUE ขณะเดียวกันให้ระมัดระวังการลงทุนกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, กลุ่มธนาคาร, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี

 ผลงานบจ.โค้ง2/68 โต 6% yoy พบบริษัททำกำไรสูงกว่าคาด 22%

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 2/68 เติบโต 6% yoy แต่ลดลง 7% qoq โดยไตรมาส 2/68 กลุ่มที่มีกำไรปกติเติบโตสูงสุด qoq ได้แก่ กลุ่มกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มอาหาร, กลุ่มโทรคมนาคม, กลุ่มขนส่ง และกลุ่มปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มที่มีกำไรปกติเติบโตต่ำสุด qoq คือ กลุ่มน้ำมันและก๊าซ, กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่างไร ก็ตาม หากรวมรายการพิเศษ พบว่ากำไรสุทธิของบจ.ที่ศึกษาจะเติบโตสูงถึง 43% yoy และ 26% qoq

ในไตรมาส 2/68 บริษัทที่ศึกษาประมาณ 24% รายงานกำไรสูงกว่าคาด และมีบริษัท 20% ทำกำไรต่ำกว่าคาด ส่วนอีก 56% มีผลประกอบการสอดคล้องกับความคาดหมาย ทั้งนี้เมื่อเทียบผลประกอบการกับไตรมาส 1/68 พบว่ามีบริษัทที่ทำกำไรสูงกว่าคาด 22%, ต่ำกว่าคาด 16% และสอดคล้องกับประมาณการ 62% โดยกลุ่มที่มีผลประกอบการดีกว่าคาดในไตรมาส 2/68 คือ กลุ่มกลุ่มธนาคาร, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่ม REIT, กลุ่มขนส่ง และกลุ่มสาธารณูปโภค ส่วนกลุ่มที่ทำกำไรต่ำกว่าคาด คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มโทรคมนาคม


กำลังโหลดความคิดเห็น