นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(22ส.ค.68)ที่ระดับ 32.67 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”
จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.80 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อย ทดสอบโซนแนวต้าน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.59-32.68 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นบ้าง ตามการทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดโดยบรรดาผู้เล่นในตลาด จากรายงานดัชนี S&P PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ ในเดือนสิงหาคม และข้อมูลตลาดบ้าน อย่าง Existing Home Sales เดือนกรกฎาคม ที่ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดได้ประเมินโอกาสราว 97% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้ง ในปีนี้ จากช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวที่เคยมองว่า มีโอกาสราว 10%-15% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้ง ในปีนี้
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายปรับสถานะถือครองและขายเงินดอลลาร์ออกมาบ้าง ตามการอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านของเงินบาท นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วน (Susan Collins, Boston Fed and FOMC Voter) ซึ่งเริ่มสะท้อนถึงโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC เดือนกันยายน นี้ ก็มีส่วนกดดันเงินดอลลาร์ อีกทั้งผู้เล่นในตลาดต่างก็รอจับตา ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงาน Jackson Hole Symposium ทำให้การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ก็เป็นไปอย่างจำกัด
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงานสัมนาวิชาการประจำปีของเฟด Jackson Hole Symposium ซึ่งจะรับรู้ในช่วงราว 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ส่วนในฝั่งอังกฤษ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนกรกฎาคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษและทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงานสัมนา Jackson Hole Symposium (จะทยอยรับรู้ในช่วงราว 21.00 น. ของคืนวันศุกร์นี้ ตามเวลาประเทศไทย) ทว่า ในช่วงราว 13.00 น. ที่ผู้เล่นในตลาดจะรับรู้รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของอังกฤษ เงินบาทก็อาจมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Two-way risk (พร้อมเคลื่อนไหวแข็งค่า หรือ อ่อนค่า) ขึ้นกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสเพียง 40% ที่ BOE จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 1 ครั้ง ในปีนี้ นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวัน เงินบาทก็อาจเสี่ยงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง หากบรรดานักลงทุนต่างชาติเดินหน้าทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม
อนึ่ง เรามองว่า เงินบาทจะมีการเคลื่อนไหวพอสมควรและเสี่ยงผันผวน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell โดยเรามองว่า ประธานเฟดอาจไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนนัก ต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด โดยเฉพาะในการประชุม FOMC เดือนกันยายน อย่างที่ผู้เล่นในตลาดกำลังคาดหวังอยู่ เนื่องจากประธานเฟดอาจมองว่า ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ของผลกระทบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ ขณะที่เฟดอาจประเมินว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่ แม้ยอดการจ้างงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จะชะลอตัวลงมากกว่าคาดก็ตาม ซึ่งมุมมองดังกล่าวของเฟด อาจสร้างความผิดหวังให้กับผู้เล่นในตลาดได้บ้าง อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดมาบ้างแล้ว ทำให้เรามองว่า หากถ้อยแถลงของประธานเฟด ไม่ได้สะท้อนอย่างชัดเจนหรือทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดเชื่อ ว่า เฟดอาจคงดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกันยายน เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อมากนัก และโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ 2 ครั้ง ก็น่าจะยังอยู่ในช่วง 85% ขึ้นไป (ลดลงเล็กน้อยจากล่าสุด 97%) ซึ่งจะไม่ได้กดดันราคาทองคำและเงินบาทมากนัก โดยค่าเงินบาทก็อาจติดโซนแนวต้าน 32.70 บาทต่อดอลลาร์ หรืออาจยังแกว่งตัวแถวระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์
แต่หากถ้อยแถลงของประธานเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจว่า เฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย สะท้อนผ่านโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ที่อาจลดลงต่ำกว่าระดับ 80% เรามองว่า เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้นได้พอควร กดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) เสี่ยงปรับตัวลงหลุดโซนแนวรับ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดโอกาสให้เงินบาทอ่อนค่าลดเข้าสู่โซน 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์ หรืออ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้ แต่เรามองว่า โอกาสเกิดกรณีนี้ มีไม่มากนัก เนื่องจาก ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ก่อน ถึงจะปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดได้ในระดับดังกล่าว
และในกรณีที่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่า เฟดพร้อมจะเดินหน้าลดดอกเบี้ย จนทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมามั่นใจมากขึ้นว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้งในปีนี้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เสี่ยงปรับตัวลดลงอีกครั้ง หนุนให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านระยะสั้น ส่วนเงินบาทก็อาจพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นทดสอบหรือทะลุโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก ซึ่งจะมีโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับถัดไป
ทั้งนี้ หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following การอ่อนค่าอย่างชัดเจนของเงินบาททะลุโซน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ จะเพิ่มโอกาสที่เงินบาทกลับเข้าสู่แนวโน้มการอ่อนค่าลงอีกครั้ง