รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ มุ่งตรงไปยังธนาคารคีร์กีซสถาน ตลาดซื้อขายคริปโต และบุคคลที่พัวพันกับสกุลเงินดิจิทัลเสถียรหนุนหลังรูเบิลรัสเซีย มูลค่า 9.3 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนความพยายามปิดเส้นเลือดการเงินเครมลินหลังใช้ช่องทางดิจิทัลเลี่ยงแรงกดดันตะวันตก ขณะที่ผู้นำคีร์กีซสวนกลับลอนดอน เตือนอย่านำการเมืองมาบิดเบือนเศรษฐกิจ
อังกฤษลุยคว่ำบาตรเครือข่ายคริปโตเอเชียกลาง
สหราชอาณาจักรประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินครั้งใหม่ครอบคลุมธนาคารของคีร์กีซสถาน ตลาดซื้อขายคริปโต และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin ที่หนุนหลังด้วยรูเบิลรัสเซีย มูลค่า 9.3 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าโครงสร้างเหล่านี้ถูกใช้เป็นช่องทางให้รัสเซียเลี่ยงมาตรการจำกัดของชาติตะวันตก
มาตรการดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดจากการคว่ำบาตรรัสเซียที่อังกฤษดำเนินไปแล้วกว่า 2,700 ครั้ง และสอดรับกับท่าทีของสหรัฐฯ ที่เพิ่งออกคำสั่งคว่ำบาตรในลักษณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ก่อน สะท้อนการประสานแรงกดดันร่วมกันระหว่างวอชิงตันและลอนดอน
เป้าหมาย ธนาคาร–ตลาดคริปโต–โครงสร้าง Stablecoin
รายชื่อที่ถูกขึ้นบัญชีดำรวมถึง ธนาคาร Central Asian Capital Bank และผู้อำนวยการ Kantemir Chalbayev ซึ่งอังกฤษกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการจัดหาทุนเพื่อสินค้าทางทหารของรัสเซีย ตลาดคริปโต Grinex และ Meer ของคีร์กีซสถานถูกคว่ำบาตรพร้อมกัน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin A7A5 ซึ่งมีการประมวลผลธุรกรรมสูงถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเวลาเพียง 4 เดือน
ขณะที่ A7A5 ถูกออกแบบให้เลียนแบบรูเบิลออนเชน และถูกมองว่าเป็นความพยายามตรงไปตรงมาในการบ่อนทำลายมาตรการคว่ำบาตรของโลกตะวันตก
วงล้อมกดดันรัสเซียเริ่มเข้มข้นมากขึ้น
นอกจากนั้น อังกฤษยังคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลเพิ่มเติม เช่น Altair Holding ที่ลักเซมเบิร์ก, CJSC Tengricoin, Old Vector รวมถึง Leonid Shumakov ผู้อำนวยการ A7A5 และเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก
สตีเฟน ดอตี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร แถลงอย่างแข็งกร้าวว่า “หากเครมลินคิดว่าพวกเขาจะซ่อนความพยายามสิ้นหวังในการเลี่ยงการคว่ำบาตรด้วยการฟอกเงินผ่านคริปโตที่น่าสงสัยได้ พวกเขาคิดผิดมหันต์”
เงื่อนงำเชื่อมโยง Grinex กับ Garantex
ข้อมูลยังชี้ว่า Grinex อาจเป็นทายาทโดยตรงของ Garantex แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ถูกคว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้ โดยมีการโอนเครดิตผู้ใช้เดิมเข้ามายัง Grinex และเคยถูก Tether ระงับการซื้อขาย USDT มูลค่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ผ่านสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ได้ขยับพร้อมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยคว่ำบาตร Grinex ผู้บริหาร 3 ราย และบริษัทอีก 6 แห่งในรัสเซียและคีร์กีซสถาน ในข้อหามีบทบาทอำนวยความสะดวกธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย
คีร์กีซปฏิเสธเสียงแข็ง สวนกลับลอนดอน
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี ซาดีร์ จาปารอฟ ของคีร์กีซสถานออกมาปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวต่อการตัดสินใจของอังกฤษ โดยยืนยันว่า “ไม่ควรนำการเมืองมาทับซ้อนกับเศรษฐกิจ” พร้อมระบุว่าธนาคาร 21 แห่งของประเทศไม่ได้มีส่วนช่วยเหลือรัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตรแต่อย่างใด
จาปารอฟเผยว่ารัฐบาลได้กำหนดให้มีเพียงธนาคารของรัฐ “เคเรเมต” เท่านั้นที่สามารถทำธุรกรรมเงินรูเบิลรัสเซีย เพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารอื่นตกอยู่ในความเสี่ยงจากมาตรการกดดัน เขายืนยันว่า คีร์กีซสถานยังคงยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ และจะไม่ปล่อยให้ผลประโยชน์ของประชาชนและเศรษฐกิจชาติถูกบดบังด้วยเกมการเมืองระหว่างมหาอำนาจ
อย่างไรก็ดี มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดสะท้อนแรงกดดันทางการเงินที่ตะวันตกต้องการเร่งปิดเส้นเลือดเศรษฐกิจรัสเซีย ผ่านช่องทางคริปโตที่กำลังเติบโตในเอเชียกลาง นอกจากนี้ปฏิกิริยาสวนกลับของคีร์กีซ ชี้ให้เห็นความเปราะบางของภูมิรัฐศาสตร์ ที่เส้นแบ่งระหว่างการเงิน–การเมือง–ความมั่นคง กำลังเลือนหายไปในโลกดิจิทัล