แรงเทขายกวาดล้างตลาดคริปโตทั่วโลก ฉุดบิทคอยน์ร่วงลงต่อเนื่องกว่า 8% จากระดับสูงสุดสัปดาห์ก่อน มูลค่าตลาดหายวับ 1.5% ขณะที่การชำระบัญชีสถานะ Long ที่ใช้เลเวอเรจสูงทำให้นักลงทุนสูญเงินกว่า 450 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง ความเปราะบางของตลาดยิ่งทวีคูณเมื่อโลกกำลังจับตาสัญญาณจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในเวที Jackson Hole ซึ่งอาจชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ รอบใหม่
แรงขายกดดัน ตลาดคริปโตร่วงทั้งกระดาน
Bitcoin ร่วงต่ำกว่า 113,000 ดอลลาร์ในวันพุธ ขณะที่ Ethereum, XRP และ Solana ต่างปรับลดลงตาม ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมลดลงเหลือ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ การร่วงลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากนักลงทุนเทขายทำกำไรอย่างหนัก หลัง Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 124,000 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน โดย Ethereum ปรับลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 4,162 ดอลลาร์ ขณะที่ XRP ร่วง 3.2% สู่ระดับ 2.90 ดอลลาร์
คลื่นชำระบัญชีซัดนักลงทุน 4.5 แสนดอลลาร์ในวันเดียว
ข้อมูลจาก Coinglass ระบุว่า มีเทรดเดอร์กว่า 128,000 รายถูกชำระบัญชีรวม 450.7 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง โดย Ethereum ถูกขายออกมากที่สุดกว่า 175 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Bitcoin ราว 101 ล้านดอลลาร์ ขณะที่สถานะ Long คิดเป็นกว่า 373 ล้านดอลลาร์ สะท้อนว่าการเก็งกำไรด้วยเลเวอเรจสูงถูกบังคับให้ปิดสถานะอย่างรุนแรงเมื่อตลาดปักหัวลง
จับตาสุนทรพจน์พาวเวลล์ จุดเปลี่ยนของเฟดและคริปโต
แรงเทขายครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนเพียงสองวันที่พาวเวลล์จะขึ้นเวที Jackson Hole นักลงทุนทั่วโลกกำลังรอฟังท่าทีว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนกันยายนหรือยังคงเข้มงวดเพื่อกดเงินเฟ้อ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดสะท้อนภาพซับซ้อน ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงที่ 2.7% แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังเร่งที่ 3.1% และราคาผู้ผลิตพุ่ง 3.3% สถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มความไม่แน่นอนต่อการตัดสินใจของเฟด ขณะที่ตลาดคริปโตเคยตอบสนองรุนแรงต่อสุนทรพจน์พาวเวลล์ในอดีต โดยปี 2565 Bitcoin ร่วง 10% ในสัปดาห์เดียวหลังสุนทรพจน์แข็งกร้าวที่มีท่าทีเข้มงวดต่อตลาดคริปโต
แม้สถาบันยังหนุนคริปโต แต่โดยรวมตลาดเปราะบาง
ดอม ฮาร์ซ ผู้ร่วมก่อตั้ง Bitcoin DeFi Protocol BOB มองว่าการร่วงลงครั้งนี้เป็นเพียงการพักฐานชั่วคราวท่ามกลางกระแสยอมรับจากสถาบันที่ยังคงหนุนตลาดต่อเนื่อง เขาย้ำว่า “Bitcoin และ DeFi กำลังอยู่ในขาขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้” ขณะที่ รุสลัน เลียนคา จาก YouHodler เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะฟันธงว่าราคาจะหยุดลงที่ใด พร้อมชี้ว่าความอ่อนแรงของตลาดหุ้นอาจซ้ำเติมแรงขายคริปโตได้
นักลงทุนระยะกลางล็อกกำไร ตลาดยังไม่หลุดตลาดกระทิง
ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนบางส่วนเลือกขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง หลังหุ้นสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงเกินไป Lienkha ระบุว่า การขายทำกำไรครั้งนี้สะท้อนการบริหารพอร์ตอย่างมีวินัยมากกว่าการสูญเสียความเชื่อมั่นในคริปโต เขามองว่า แม้ตลาดจะดูตึงตัว แต่นักลงทุนระยะกลางที่มองช่วงเวลา 2–3 ปี ยังคงมีกลยุทธ์ล็อกกำไรเมื่อเห็นสัญญาณตลาดตึง เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อใหม่
อย่างไรก็ดีการร่วงของคริปโตในรอบนี้คือสัญญาณเตือนถึงความเปราะบางเชิงโครงสร้าง นักลงทุนกำลังเผชิญสมรภูมิระหว่างแรงขายทำกำไรและความคาดหวังนโยบายการเงินของเฟด ความผันผวนจึงยังคงเป็นตัวละครหลักของตลาดคริปโตในระยะสั้น แต่การหนุนจากสถาบันและการยอมรับในระดับโลกยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม