xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.60-ตลาดรอติดตามรายงานการประชุม FOMC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(20ส.ค.68)ที่ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลง เข้าใกล้โซนแนวต้านถัดไปในช่วง 32.65 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.47-32.61 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามรายงานข้อมูลตลาดบ้านของสหรัฐฯ อย่าง ยอด Housing Starts เดือนกรกฎาคม ที่ปรับตัวขึ้น +5.2%m/m ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายทำกำไรบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ แม้ว่าบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ทว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงกดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) ย่อตัวลงเข้าใกล้โซน 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มแรงกดดันต่อเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมาเช่นกัน

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานการประชุม FOMC ล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนกรกฎาคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ BOE ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองว่า BOE มีโอกาสราว 51% ที่จะลดดอกเบี้ยอีก 25bps 1 ครั้ง ในปีนี้

และในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมกับจับตาการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) จากทางธนาคารกลางจีน (PBOC)

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกของสหรัฐฯ

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่าเงินบาทจะทยอยอ่อนค่าลงบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่เรายังคงประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐฯ รวมถึงไฮไลท์สำคัญ อย่าง ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ทำให้การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด นอกจากนี้ เรามองว่า การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วงนี้ ยังคงเห็นแรงซื้อ Buy on Dip จากผู้เล่นในตลาดอยู่ ซึ่งล่าสุด ราคาทองคำได้ย่อตัวลงสู่โซนแนวรับ ทำให้ในระยะสั้นก็มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นบ้าง หรืออย่างน้อยการปรับตัวลดลงต่อชัดเจนนั้น จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 2 ครั้ง ถึงจะทำให้ราคาทองคำ (XAUUSD) เสี่ยงปรับตัวลดลงต่อ สู่โซนแนวรับถัดไปในช่วง 3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์

หากตลาดยังไม่ได้รับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาท (USDTHB) ก็อาจติดอยู่แถวโซนแนวต้านแรก 32.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยจะมีโซน 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านถัดไป ทั้งนี้ หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะกลับมาสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ในทางกลับกัน หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง ก็อาจพอมีโซนแนวรับในช่วง 32.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับแรก โดยมีโซน 32.10 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับสำคัญถัดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น