KakaoBank บิ๊กแบงก์ดิจิทัลเกาหลีใต้ เตรียมลุยตลาด Stablecoin อย่างจริงจัง หลังรัฐบาลใหม่เปิดทางสู่กฎหมายคริปโตชัดเจน ประกาศชัดเล็งพัฒนาแพลตฟอร์มออกและเก็บรักษา Stablecoin พร้อมดึงพันธมิตรในเครือ Kakao รวมพลัง ตั้งเป้าเป็นผู้นำในระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อน Stablecoin วอนลุยตลาดจริงปี 2569
KakaoBank ธนาคารในเครือ Kakao Corporation เตรียมเดินหน้าเข้าสู่สมรภูมิ Stablecoin อย่างเต็มตัว โดยประกาศชัดในเวทีประชุมรายได้ครึ่งปีว่า บริษัท “มีแผนจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน” ในตลาดคริปโต โดยเฉพาะการออกและดูแลรักษา Stablecoin สะท้อนภาพการวางหมากระยะยาวในยุคที่เกาหลีใต้เริ่มเปิดกว้างต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
ควอน แทฮุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ KakaoBank กล่าวในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า บริษัทกำลังพิจารณาโมเดลธุรกิจในระบบนิเวศคริปโต ทั้งในแง่ “การออก” และ “การเก็บรักษา” Stablecoin พร้อมเปิดเผยว่าได้เริ่มดำเนินการภายใต้ “Stablecoin Task Force” ซึ่งประกอบด้วยทีมผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทในเครือ Kakao อย่าง KakaoPay เพื่อเร่งเครื่องเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ
ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ นายลี แจ-มยอง ซึ่งเป็นแสดงท่าทีผู้สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน โดยมีการผลักดันร่างกฎหมายหลายฉบับที่เปิดทางให้ Stablecoin ถูกกฎหมาย ซึ่งถือเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ KakaoBank เร่งเปิดเกมรุกในตลาดนี้
ไม่ใช่แค่การออกมาประกาศ KakaoBank ยังได้ยื่นจดเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พร้อมกับ Kookmin Bank ธนาคารในเครือ KB Financial Group ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันในตลาด Stablecoin กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่สถาบันการเงินเกาหลีใต้
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าอีก 8 ธนาคารใหญ่ในเกาหลีก็กำลังวางแผนเปิดตัว Stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงินวอน ภายในปี 2569 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเปลี่ยนโฉมระบบการเงินภายในประเทศไปโดยสิ้นเชิง และอาจส่งผลต่อบทบาทของเกาหลีใต้ในระบบการเงินดิจิทัลระดับโลก
KakaoBank ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกคริปโต โดยควอนเผยว่า ธนาคารมีประสบการณ์จากการให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต และการเข้าร่วมโครงการทดลองสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ร่วมกับธนาคารแห่งเกาหลี
“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราได้ออกบัญชีที่ยืนยันตัวตนจริงสำหรับใช้บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือน พร้อมดำเนินการตามมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) เช่น KYC และการติดตามธุรกรรมอย่างเข้มงวด” ควอนกล่าวย้ำถึงความพร้อมของธนาคาร
ปัจจุบัน KakaoBank มีผู้ใช้งานมากถึง 25.86 ล้านคน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรเกาหลีใต้ทั้งประเทศที่อยู่ที่ราว 51.7 ล้านคน ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 46.47 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ด้านกระแสความนิยมในคริปโตของประชาชนก็ยังคงร้อนแรง โดยมีรายงานว่าผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในเกาหลีใต้ทะลุ 16 ล้านคน หรือคิดเป็นมากกว่า 30% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนการยอมรับระดับมหาชนได้อย่างชัดเจน
หลังการยื่นจดเครื่องหมายการค้า Stablecoin ราคาหุ้นของ KakaoBank พุ่งขึ้นทันทีจาก 30,400 วอน (ราว 22.60 ดอลลาร์) เป็น 37,000 วอน (ราว 27 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้นกว่า 19.3% ก่อนจะทรงตัวในช่วงหลัง โดยปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 19.60 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.93%
นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2559 ด้วยการร่วมทุนระหว่าง Kakao Corp และ Korea Investment Holdings KakaoBank ได้กลายเป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำของประเทศ ด้วยโมเดลที่เน้นเทคโนโลยีและการเข้าถึงประชาชนวงกว้าง
ความเคลื่อนไหวของ KakaoBank ไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มทั่วโลกที่ต่างก็เร่งขยับเข้าหา Stablecoin โดยรายงานจาก Fireblocks เมื่อเดือนพฤษภาคมพบว่า กว่า 90% ของผู้เล่นสถาบันระดับองค์กร กำลังสำรวจการใช้งาน Stablecoin ในกระบวนการทางการเงิน
ขณะที่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของรัสเซียยังได้เสนอให้รัฐบาลพัฒนา Stablecoin ของตนเอง ขณะเดียวกันในอาบูดาบี สถาบันการเงินหลัก 3 แห่งก็ร่วมมือกันสร้าง Stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงินเดอร์แฮม การเดินเกมส์รุกของ KakaoBank จึงอาจไม่เพียงแค่วางรากฐานเพื่อเข้าสู่ตลาดคริปโตเท่านั้น แต่กำลังเตรียมตัวเป็นหนึ่งใน “เสาหลัก” ของระบบการเงินใหม่ที่ Stablecoin จะกลายเป็นแกนกลางในอนาคต