xs
xsm
sm
md
lg

KakaoBank รุกตลาด Stablecoin! วางหมากใหม่หนุนเกาหลีใต้ขึ้นแท่นศูนย์กลางคริปโตเอเชีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



KakaoBank บิ๊กแบงก์ดิจิทัลเกาหลีใต้ เตรียมลุยตลาด Stablecoin อย่างจริงจัง หลังรัฐบาลใหม่เปิดทางสู่กฎหมายคริปโตชัดเจน ประกาศชัดเล็งพัฒนาแพลตฟอร์มออกและเก็บรักษา Stablecoin พร้อมดึงพันธมิตรในเครือ Kakao รวมพลัง ตั้งเป้าเป็นผู้นำในระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อน Stablecoin วอนลุยตลาดจริงปี 2569

KakaoBank ธนาคารในเครือ Kakao Corporation เตรียมเดินหน้าเข้าสู่สมรภูมิ Stablecoin อย่างเต็มตัว โดยประกาศชัดในเวทีประชุมรายได้ครึ่งปีว่า บริษัท “มีแผนจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน” ในตลาดคริปโต โดยเฉพาะการออกและดูแลรักษา Stablecoin สะท้อนภาพการวางหมากระยะยาวในยุคที่เกาหลีใต้เริ่มเปิดกว้างต่อสินทรัพย์ดิจิทัล

ควอน แทฮุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ KakaoBank กล่าวในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า บริษัทกำลังพิจารณาโมเดลธุรกิจในระบบนิเวศคริปโต ทั้งในแง่ “การออก” และ “การเก็บรักษา” Stablecoin พร้อมเปิดเผยว่าได้เริ่มดำเนินการภายใต้ “Stablecoin Task Force” ซึ่งประกอบด้วยทีมผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทในเครือ Kakao อย่าง KakaoPay เพื่อเร่งเครื่องเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ

ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ นายลี แจ-มยอง ซึ่งเป็นแสดงท่าทีผู้สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน โดยมีการผลักดันร่างกฎหมายหลายฉบับที่เปิดทางให้ Stablecoin ถูกกฎหมาย ซึ่งถือเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ KakaoBank เร่งเปิดเกมรุกในตลาดนี้

สินทรัพย์ภายใต้การจัดการของ KakaoBank เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2564 ที่มา: CompaniesMarketCap
ไม่ใช่แค่การออกมาประกาศ KakaoBank ยังได้ยื่นจดเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พร้อมกับ Kookmin Bank ธนาคารในเครือ KB Financial Group ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันในตลาด Stablecoin กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่สถาบันการเงินเกาหลีใต้

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าอีก 8 ธนาคารใหญ่ในเกาหลีก็กำลังวางแผนเปิดตัว Stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงินวอน ภายในปี 2569 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเปลี่ยนโฉมระบบการเงินภายในประเทศไปโดยสิ้นเชิง และอาจส่งผลต่อบทบาทของเกาหลีใต้ในระบบการเงินดิจิทัลระดับโลก

KakaoBank ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกคริปโต โดยควอนเผยว่า ธนาคารมีประสบการณ์จากการให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต และการเข้าร่วมโครงการทดลองสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ร่วมกับธนาคารแห่งเกาหลี

“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราได้ออกบัญชีที่ยืนยันตัวตนจริงสำหรับใช้บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือน พร้อมดำเนินการตามมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) เช่น KYC และการติดตามธุรกรรมอย่างเข้มงวด” ควอนกล่าวย้ำถึงความพร้อมของธนาคาร

ปัจจุบัน KakaoBank มีผู้ใช้งานมากถึง 25.86 ล้านคน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรเกาหลีใต้ทั้งประเทศที่อยู่ที่ราว 51.7 ล้านคน ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 46.47 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ราคาหุ้น KakaoBank ยังไม่มีการเพิ่มขึ้นมากนักนับตั้งแต่มีการเปิดเผยขั้นตอนต่อไปในแผน Stablecoin ที่กำลังดำเนินอยู่ ที่มา: Google Finance
ด้านกระแสความนิยมในคริปโตของประชาชนก็ยังคงร้อนแรง โดยมีรายงานว่าผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในเกาหลีใต้ทะลุ 16 ล้านคน หรือคิดเป็นมากกว่า 30% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนการยอมรับระดับมหาชนได้อย่างชัดเจน

หลังการยื่นจดเครื่องหมายการค้า Stablecoin ราคาหุ้นของ KakaoBank พุ่งขึ้นทันทีจาก 30,400 วอน (ราว 22.60 ดอลลาร์) เป็น 37,000 วอน (ราว 27 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้นกว่า 19.3% ก่อนจะทรงตัวในช่วงหลัง โดยปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 19.60 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.93%

นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2559 ด้วยการร่วมทุนระหว่าง Kakao Corp และ Korea Investment Holdings KakaoBank ได้กลายเป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำของประเทศ ด้วยโมเดลที่เน้นเทคโนโลยีและการเข้าถึงประชาชนวงกว้าง

ความเคลื่อนไหวของ KakaoBank ไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มทั่วโลกที่ต่างก็เร่งขยับเข้าหา Stablecoin โดยรายงานจาก Fireblocks เมื่อเดือนพฤษภาคมพบว่า กว่า 90% ของผู้เล่นสถาบันระดับองค์กร กำลังสำรวจการใช้งาน Stablecoin ในกระบวนการทางการเงิน

ขณะที่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของรัสเซียยังได้เสนอให้รัฐบาลพัฒนา Stablecoin ของตนเอง ขณะเดียวกันในอาบูดาบี สถาบันการเงินหลัก 3 แห่งก็ร่วมมือกันสร้าง Stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงินเดอร์แฮม การเดินเกมส์รุกของ KakaoBank จึงอาจไม่เพียงแค่วางรากฐานเพื่อเข้าสู่ตลาดคริปโตเท่านั้น แต่กำลังเตรียมตัวเป็นหนึ่งใน “เสาหลัก” ของระบบการเงินใหม่ที่ Stablecoin จะกลายเป็นแกนกลางในอนาคต