xs
xsm
sm
md
lg

EXIM BANK เผย ณ สิ้นไตรมาส 2 ยอดสินเชื่อใหม่ 2.8 หมื่นล้าน-เร่งระดมมาตรการช่วยเหลือลูกค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานของ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ว่า ท่ามกลางบริบทของเศรษฐกิจโลกที่เต็มไปด้วยความเปราะบางและความไม่แน่นอน แม้ว่าผลกระทบจากมาตรการภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ จะผ่อนคลายลงเป็นผลจากความสำเร็จของทีมไทยแลนด์ในการเจรจาลดอัตราภาษีลงเหลือ 19% แต่ปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะสถานการณ์ข้อพิพาทในพื้นที่ชายแดน ยังสร้างแรงกดดันต่อภาคการส่งออกไทย รวมถึงผลกระทบต่อการค้าและห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ EXIM BANK จึงออกมาตรการเชิงรุกเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการไทย วงเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย การให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนและเสริมสภาพคล่อง วงเงินรวม 4,000 ล้านบาท และมาตรการสนับสนุนการหาตลาดใหม่ วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท อาทิ สินเชื่อพร้อมประกันการส่งออก (EXIM Safe Trade Credit) และสินเชื่อสนับสนุนผู้ประกอบการตามโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้ความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (EXIM-DITP Empower Financing) สินเชื่อเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (Transformation Loan) และสินเชื่อเพื่อคงการจ้างงาน ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2568 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 28,033 ล้านบาท และสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 189,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.57% ในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 140,137 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 73.84% ของสินเชื่อรวมทั้งหมด โดยเป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในโครงการระหว่างประเทศ 42,313 ล้านบาท สะท้อนบทบาทการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK ยังคงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการลงทุนของไทยในกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในกลุ่มประเทศเหล่านี้ จำนวน 36,436 ล้านบาท

ด้านสิ่งแวดล้อม EXIM BANK มุ่งมั่นพัฒนาและนำนวัตกรรมทางการเงินมาใช้สนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลกบนพื้นฐานของความยั่งยืน ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะการสนับสนุนโครงการพลังงานทดแทน แต่รวมถึงการยกระดับธุรกิจอื่น ๆ เช่น ภาคเกษตร โดยล่าสุด EXIM BANK จับมือองค์กรเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil : RSPO) สนับสนุนการยกระดับการดำเนินธุรกิจปาล์มน้ำมันของไทยตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) สู่มาตรฐานสากลและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ EXIM BANK มีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืน 81,879 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43.14% ของสินเชื่อรวมทั้งหมด เทียบกับ 38.43% ใน ช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านสังคม EXIM BANK เดินหน้าให้ความช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการไทยในทุกสถานการณ์ ทั้งภาวะวิกฤตและช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอย่างครอบคลุมและทันท่วงที เพื่อบรรเทาผลกระทบและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคธุรกิจไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ เช่น สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 3 เพื่อเสริมสภาพคล่องของสถานประกอบการให้สามารถรักษาการจ้างงานได้อย่างต่อเนื่อง ลดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สินเชื่อเอ็กซิมค้าขายสบายใจ ลดภาระต้นทุนทางการเงิน และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย รวมถึงมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ระยะที่ 2 ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่มุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs กลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาด้วยแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสม

สำหรับบริการประกันการส่งออกและลงทุน เครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศได้อย่างมั่งคงและยั่งยืน ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2568 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกันเท่ากับ 107,901 ล้านบาท การให้บริการอย่างครบวงจรทั้งสินเชื่อและบริการประกันทำให้ EXIM BANK มีจำนวนลูกค้ารวม 5,150 ราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้า SMEs ถึง 79.09% นอกจากนี้ EXIM Export Studio ยังเดินหน้าเติมความรู้และเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ผ่านการอบรมบ่มเพาะ กิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจและสร้างเครือข่าย รวมมีผู้เข้าร่วมถึง 23,675 ราย ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ตอกย้ำบทบาทพันธมิตรที่อยู่เคียงข้าง SMEs ไทยในการก้าวเข้าสู่เวทีการค้าโลก

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2568 EXIM BANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) 6,541 ล้านบาท คิดเป็น NPL Ratio ที่ 3.66% และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) 17,607 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 269.18% เพิ่มเกราะป้องกันความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้ EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 663 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 263%
กำลังโหลดความคิดเห็น