ธนาคารชั้นนำของเกาหลีใต้เปิดเกมรุกเต็มสูบ ลุยตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ จับมือสตาร์ทอัพบล็อกเชน จดเครื่องหมายการค้า stablecoin เป็นว่าเล่น ท่ามกลางกระแสกฎหมายคริปโตใหม่ที่กำลังจะเปิดไฟเขียวระดับประเทศ ภายใต้นโยบายหนุนสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลประธานาธิบดีอี-แจมยอง พร้อมโหมโรงยุคใหม่ของ "คริปโตอย่างเป็นทางการ"
ธนาคารรายใหญ่ของเกาหลีใต้กำลังเคลื่อนไหวเพื่อเข้าสู่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีและ stablecoin โดยเร่งตั้งทีมพิเศษและวางยุทธศาสตร์เชิงรุก หลังอุตสาหกรรมเริ่มคาดการณ์ว่ากฎหมายกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลระดับประเทศจะเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการในไม่ช้า
บรรดาธนาคารระดับท็อปของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Shinhan, Woori, KEB Hana และ KB Kookmin ต่างจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นภายในองค์กรอย่างพร้อมเพรียง โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล กระเป๋าเงินดิจิทัล stablecoin และบริการบล็อกเชนที่สามารถแข่งขันในระดับสถาบัน
ในกลุ่มนี้ Woori Bank ซึ่งมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ล่าสุดได้จัดตั้ง “ทีมสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งสังกัดอยู่ในฝ่ายพันธมิตรธุรกิจใหม่ โดยมีภารกิจสำคัญในการศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมเดินหน้าเจรจาจับมือกับบริษัทสตาร์ทอัพบล็อกเชนเพื่อฟื้นโครงการคริปโตที่เคยถูกพักไว้ในอดีต
หนังสือพิมพ์ Maeil Business รายงานว่า Woori Bank ได้ลงนามข้อตกลงร่วมธุรกิจกับหลายบริษัทเพื่อจัดตั้งกลุ่มธุรกิจร่วม (consortium) ที่มุ่งเป้าเข้าสู่ตลาด stablecoin อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน
ขณะที่ KB Kookmin Bank เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ได้เปิดตัว “คณะกรรมการตอบสนองสินทรัพย์ดิจิทัล” ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีภารกิจประสานความร่วมมือกับบริษัทในเครืออย่าง KB Card, KB Insurance และ KB Securities เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์รองรับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายคริปโต โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดบริการใหม่ภายใต้กรอบกำกับของรัฐ
นับเป็นการเปลี่ยนจุดยืนจากอดีตที่ชัดเจน เมื่อปี 2561–2562 ธนาคารเคยเริ่มทดลองเข้าสู่โลกคริปโต แต่ถูกเบรกโดยรัฐบาลมุน แจอิน ที่ออกกฎห้ามการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ICO) และเข้มงวดกับกิจกรรมคริปโตทุกประเภท
ภายใต้ยุครัฐบาลประธานาธิบดีอี แจมยอง บรรยากาศเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อีขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำที่สนับสนุนการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและระบบการเงินดิจิทัลมาใช้ในระดับโครงสร้าง เขาได้เร่งผลักดันให้มีการกำกับดูแลคริปโตอย่างเป็นระบบตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน 2568 ส่งผลให้ตลาดคริปโตที่ซบเซากลับมาคึกคักอีกครั้ง
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านทางนโยบาย สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้กำลังพิจารณาร่างกฎหมายคริปโตหลายฉบับ ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสถาบันการเงินดั้งเดิมให้สามารถออก stablecoin เปิดบริการดูแลทรัพย์สินดิจิทัล และอาจรวมถึงการดำเนินการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตภายใต้การกำกับ คาดว่าร่างกฎหมายเหล่านี้จะผ่านความเห็นชอบในไม่กี่เดือนข้างหน้า
รายงานจาก Maeil Kyungjae สื่อเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศระบุว่า สถาบันการเงินกำลังเร่งเครื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับการเปิดตัวของกฎหมายฉบับใหม่ โดยมองว่านี่คือ “สัญญาณไฟเขียว” ที่จะเปิดประตูให้ธนาคารมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมคริปโตยุคใหม่
แหล่งข่าวภายในธนาคารเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้การปฏิรูปจะยังไม่เริ่มบังคับใช้จริง แต่หลายสถาบันมองว่าการวางโครงสร้างล่วงหน้าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้สามารถเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วเมื่อกฎหมายประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน บรรดาธนาคารยังเร่งดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ในระยะยาว โดย Shinhan Bank ได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจด้านคริปโตจำนวน 20 คน เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินดิจิทัลเชิงลึก
ด้าน KB Kookmin ยิ่งแสดงความจริงจัง ด้วยการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ stablecoin ที่ผูกกับเงินวอนถึง 32 ฉบับ และอีก 49 ฉบับสำหรับ stablecoin ที่เชื่อมโยงกับสกุลเงินต่างประเทศ ถือเป็นยุทธศาสตร์สร้างแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อยึดหัวหาดในระยะยาว
ขณะที่ฝั่งธนาคารระดับภูมิภาคเช่น K Bank ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ Upbit แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเบอร์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้จัดตั้งทีมเฉพาะด้านสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้น ขณะที่ Busan Bank ก็เดินหน้าเปิดทีมวิจัยเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อประเมินการประยุกต์ใช้ระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ (DLT) ในการเงินระดับภูมิภาค
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในระบบธนาคารเกาหลีใต้ ท่ามกลางความคาดหวังว่ายุค “คริปโตภายใต้การกำกับ” กำลังจะเริ่มต้น และสถาบันการเงินดั้งเดิมจะกลายเป็นผู้เล่นหลักในเกมดิจิทัลแห่งอนาคต ไม่ใช่แค่ผู้ตามอีกต่อไป