xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.เผยโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทยปี 68ใกล้เคียงกับปีก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2568 ยังมีทิศทางและสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ณ สิ้น มิ.ย.บริษัทจดทะเบียน 854 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 13.43 ล้านล้านบาท หรือ 97.89% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด นักลงทุนในประเทศถือครองหุ้นมากที่สุดอยู่ที่ 45.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด ขณะนักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นอยู่ที่ 32.99% ตามด้วยนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ 21.81% และบริษัทหลักทรัพย์ 0.15%






ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.เผยว่าจากการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ของบริษัทจดทะเบียน 854 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 13.43 ล้านล้านบาท หรือ 97.89% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด พบว่ามีสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนแต่ละประเภท (นักลงทุนในประเทศ นักลงทุนสถาบันในประเทศ นักลงทุนต่างประเทศ และบริษัทหลักทรัพย์) พบว่า นักลงทุนในประเทศมีสัดส่วนตามมูลค่าการถือครองหุ้นมากที่สุดอยู่ที่ 45.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด (ซึ่งแบ่งออกเป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศ 25.68% และกลุ่มนักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่นๆ 19.37%) รองลงมา คือ นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ที่ 32.99% ตามมาด้วยนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ 21.81% และบริษัทหลักทรัพย์ที่ 0.15%

เมื่อพิจารณาตามสัญชาติของนักลงทุน พบว่า 67.01% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็นการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนไทย ขณะที่อีก 32.99% ถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศ

เมื่อพิจารณาจากประเภทหลักทรัพย์ตามสิทธิประโยชน์ (local shares / foreign shares / NVDR) พบว่า 66.92% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็น local shares สอดคล้องกับสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนไทย และที่เหลือประมาณ 33.08% เป็น foreign shares และ NVDR สอดคล้องและใกล้เคียงกันกับสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ หมายถึง นักลงทุนถือครองหุ้นตรงตามสิทธิ ทำให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ทั้งสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น (voting rights) และสิทธิประโยชน์ทางการเงิน (financial benefits)
Disclaimers
โดยจากการศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2568 จากข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น, ข้อมูล Corporate Actions และข้อมูลการระดมทุนผ่านตลาดรอง ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 854 บริษัท โดยใช้ข้อมูลล่าสุดถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 13.43 ล้านล้านบาท หรือ 97.89% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด

ทั้งนี้ นักลงทุนในประเทศ (ซึ่งแบ่งออกเป็นนักลงทุนรายย่อย และกลุ่มนักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่นๆ) มีสัดส่วนตามมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดอยู่ที่ 45.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด รองลงมา คือนักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ที่ 32.99% และนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ 22.81%

ในการศึกษานี้ ยังคงจำแนกมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (ตลาดหุ้นไทย) ตามประเภท นักลงทุน 4 ประเภท ที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกับในรายงาน SET Note 15/2566 เรื่อง “เปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2566” โดยแบ่งออกเป็น 1) นักลงทุนต่างประเทศ 2) นักลงทุนสถาบันในประเทศ 3) บริษัทหลักทรัพย์ และ 4)นักลงทุนภายในประเทศ ซึ่งในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์เป็นตัวกลางในการซื้อขายหลักทรัพย์ มีการถือครองหุ้นน้อย (เฉพาะพอร์ตการถือครองหุ้นของบริษัทเท่านั้น) ขณะที่ “นักลงทุนภายในประเทศ” สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักลงทุนรายย่อย และกลุ่มนักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่นๆ

เมื่อพิจารณาสัดส่วนมูลค่าการถือครองตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศมีสัดส่วนตามมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดอยู่ที่ 45.05% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด (ซึ่งแบ่งออกเป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศ 25.68% และกลุ่มนักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่นๆ 19.37%) รองลงมา คือ นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ที่ 32.99% และนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ 21.81% และบริษัทหลักทรัพย์ที่ 0.15% ตามลำดับ
โดย 66.92% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็น local shares สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับสัดส่วนมูลค่าการ ถือครองหุ้นของนักลงทุนไทย และที่เหลือประมาณ 33.08% เป็น foreign shares และ NVDR ซึ่งสอดคล้องกับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น (shareholders’ benefits)

จากที่กล่าวมาข้างต้น พบว่า นักลงทุนไทยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม ประมาณ 67.01% ของมูลค่ารวมหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และนักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม ประมาณ 32.99% ของมูลค่ารวมหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
เมื่อพิจารณาตามประเภทหลักทรัพย์ตามสิทธิประโยชน์ (local shares / foreign shares / NVDR) พบว่า 66.92 % ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็น local shares และที่เหลืออีกประมาณ 33.08% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด แบ่งเป็น foreign shares 27.37% และ NVDR 5.71% สอดคล้องกับสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศตามที่กล่าวมาข้างต้น หมายถึง นักลงทุนถือครองหลักทรัพย์ตรงตามสิทธิประโยชน์ ส่งผลให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ทั้งสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น (voting rights) และสิทธิประโยชน์ทางการเงิน (financial benefits)

โดยสรุปจากการศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2568 ยังคงมีทิศทางและสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และพบว่า โดยรวมแล้วนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามประเภทหลักทรัพย์ สังเกตได้จากการเลือกถือครองหุ้นตรงตามสิทธิทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นครบถ้วน


กำลังโหลดความคิดเห็น