แม้การปะทะบริเวณชายแดนประเทศกัมพูชา ยังไม่สงบราบคาบเสียทีเดียว แม้การเจรจาภาษีตอบโต้การค้า ยังไม่มีบทสรุปชัดเจนว่า ประเทศไทยจะจ่ายภาษีสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐในอัตราเท่าใด แต่ตลาดหุ้นไม่รอใครแล้ว วิ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง และกำลังตีฝ่าแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1250 จุด
การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นรอบนี้ แรงเกินความคาดหมาย จากดัชนี ฯ ที่กำลังร่อแร่ และใกล้จุดวิกฤต เพราะทำท่าจะหลุดจากระดับ 1050 จุด แต่พลิกฟื้นกลับสู่ความคึกคักอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ไม่มีข่าวดีหรือปัจจัยใหม่ที่กระตุ้นการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
เพียงแต่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งถล่มขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องหลายปีติดต่อจำนวนประมาณ 4 แสนล้านบาท หวนคืนกลับตลาดหุ้นไทย ไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่ เปลี่ยนสีกระดานหุ้นจากแดงเป็นสีเขียวขจี ผลักดันดัชนี ฯ พุ่งกระฉูด จากที่เคยหวิดหลุดระดับ 1050 จุด ขี้นมารอจ่อทะลุ 1250 จุด หรือดีดตัวขึ้นมาแล้วรอบนี้ประมาณ 180 จุด
และถ้าตีฝ่าแนวต้านขึ้นไปแตะที่ 1250 จุด หุ้นรอบนี้จะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ วิ่งม้วนเดียวประมาณ 200 จุด
นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้จุดชนวน ไล่หุ้นขึ้นมา โดยแม้ยอดซื้อขายของต่างชาตินับจากต้นปีจนสิ้นสุดวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะมียอดขายหุ้นสุทธิจำนวน 62,843 ล้านบาท แต่ในเดือนกรกฎาคม ต่างชาติกลับมียอดซื้อสะสมรวม 15,848 ล้านบาท โดยเฉพาะวันที่ 29 กรกฎาคม มียอดซื้อหุ้นสุทธิ 3,379 ล้านบาท และผลักดันดัชนี ฯ ให้ขยับมาปิดที่ 1233.68 จุด สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบนี้
ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่า เหตุใดต่างชาติจึงกลับมา ทั้งที่นักลงทุนในประเทศ ยังกังวลผลกระทบจากอัตราภาษีสินค้าของประเทศไทยที่สหรัฐจะเรียกเก็บ
แต่ต่างชาติกลับไม่ให้น้ำหนักความสำคัญ และทยอยเข้ามาไล่ซื้อตลอดเดือนกรกฎาคม โดยไม่มีสัญญาณว่าจะหยุดซื้อ หรือเทขายขนเงินกลับบ้าน
เหลือเวลาเพียง 1 วัน จะถึงเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำหนดไว้ ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ถ้าการเจรจาต่อรองภาษีตอบโต้ ไม่มีข้อสรุป จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศไทยในอัตรา 36% ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการส่งออก และตลาดหุ้น
ความคาดหมายของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่า ไทยจะเสียภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐในอัตราประมาณ 20% ซึ่งจะถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น แต่ถ้าต้องเสียภาษีเกิน 20% อาจส่งผลลบต่อการลงทุน ขึ้นอยู่กับว่าจะเสียภาษีในอัตราสูงกว่า 20% มากน้อยเพียงใด
นักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่ ชะลอการลงทุน เพื่อรอคอยบทสรุปการเจรจาภาษีตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐ แต่ดูเหมือนว่า ตลาดหุ้นไม่รอแล้ว โดยทะยานขึ้นไปก่อน เหมือนจะรับรู้ว่า ไทยจะเสียภาษีตอบโต้ของสหรัฐเพียง 20% อัตราเดียวกับประเทศเวียดนาม
เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติ ที่ยกทัพเข้ามาลุยเก็บหุ้น ผลักดันให้ดัชนี ฯ พุ่ง ขึ้น จนเป้าหมายดัชนีฯ 1250 จุดอยู่เพียงแค่เอื้อม
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยใหญ่ที่จะชี้นำแนวโน้มตลาดหุ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว อยู่ที่ผลเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ ซึ่งนักลงทุนรอลุ้นระทึกอีกเพียงวันเดียวเท่านั้น
ถ้าตัวเลขภาษีตอบโต้ของสหรัฐ สรุปลงที่อัตรา 20% ใกล้เคียงเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน รอบนี้ 1250 จุดผ่านได้แน่
และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ อาจต้องปรับตัวเลขเป้าหมายดัชนีหุ้นช่วงปลายปีนี้กันอีกครั้ง
ตัวเลขดัชนี ฯ กว่า 1300 จุดในสิ้นปีนี้ เริ่มถูกหยิบยกมาพูดถึงกันอีกครั้งแล้ว 5 เดือนหลังต่อจากนี้ ตลาดหุ้นอาจไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก
