xs
xsm
sm
md
lg

โกลด์แมน ฯ ชี้ “เศรษฐกิจจีนกำลังน่าเป็นห่วง” ปี 68 อาจเจอแรงสะเทือนหนัก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Goldman Sachs ส่งสัญญาณเตือนเศรษฐกิจจีนผ่านชุดข้อมูลอัพเดตล่าสุด หลังพบการเติบโตค่าจ้างร่วงต่ำสุดในรอบหลายปี นักวิเคราะห์จับตาแรงงานหันพึ่งอาชีพอิสระเพราะหางานประจำไม่ได้ ด้าน Gavekal ระบุ “ความอ่อนแอของตลาดแรงงาน” คือเงื่อนไขสำคัญที่ฉุดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนไม่ให้ฟื้นตัว

คลื่นใต้น้ำเศรษฐกิจจีนเริ่มโหมแรง! ล่าสุด Goldman Sachs สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลก ออกคำเตือนชัดเจนว่า เศรษฐกิจจีนกำลังแสดงสัญญาณชะลอตัวที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน ที่กำลังเผชิญกับภาวะฝืดเคืองแบบ “เงียบแต่หนักหน่วง” และอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวในปี 2568

จากรายงานของนักเศรษฐศาสตร์ในสังกัดโกลด์แมนฯ เผยว่า การเติบโตของค่าจ้างในจีนในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 อยู่ที่เพียง 3.9% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของจีน (ไม่นับปีที่มีการระบาดใหญ่) และ ต่ำกว่าข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัฐบาลจีนราว 1% ซึ่งนั่นสะท้อนว่าภาพที่รัฐบาลแสดง อาจ “ไม่ตรงกับของจริง” ที่ประชาชนรู้สึกอยู่

“เครื่องมือติดตามค่าจ้างของเราแสดงให้เห็นว่าการเติบโตที่ชะลอลงนี้ อาจฉุดการบริโภคภาคครัวเรือนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ได้อย่างมีนัยสำคัญ” รายงานจากนักเศรษฐศาสตร์ โกลด์แมนฯ

ที่มา: Bloomberg
นอกจากนี้ในรายงานยังประเมินว่ารัฐบาลจีนอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ “เฉพาะจุดและรวดเร็ว” มากขึ้น เพื่อบรรเทาภาวะตึงเครียดในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในเมืองระดับสองและสามที่ภาคธุรกิจซบเซา

ขณะเดียวกันนอกจากการเติบโตของค่าจ้างที่ต่ำ รายงานจาก เออนาน ฉู่ นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้บริโภคจาก Gavekal ยังเผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าตกใจเพิ่มเติมว่า “คนงานจีนจำนวนมากกำลังหันไปทำอาชีพอิสระ เพราะไม่มีงานประจำที่มั่นคงการันตีความมั่นคงคุณภาพชีวิตได้”

สิ่งที่น่าจับตาคือ ในขณะที่รัฐบาลจีนยังนับคนกลุ่มนี้ว่า “มีงานทำ” แต่พวกเขามักไม่ถูกนับรวมอยู่ในการสำรวจของบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งหมายความว่าภาพตลาดแรงงานอาจถูกปรับแต่งจนเบี่ยงเบนจากความจริง

แม้ว่าอัตราการว่างงานแบบทางการยังดู “นิ่ง” แต่เมื่อแยกวิเคราะห์เชิงโครงสร้าง จะเห็นได้ว่า “ตลาดแรงงานจีนกำลังบอบบางแบบไม่เป็นข่าว” และ ความเชื่อมั่นของครัวเรือนก็ยังไม่ฟื้นกลับมาจนกว่าจะเห็นสัญญาณของการจ้างงานจริงที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ดี หากจีนนิ่งเฉยกับข้อมูลเหล่านี้เส้นทางเศรษฐกิจในปี 2568 อาจไม่ใช่แค่ “ชะลอตัว” แต่เป็นการ สะดุดกลางอากาศ เพราะเมื่อการจ้างงานไม่กระเตื้อง การบริโภคก็จะอ่อนแรง การลงทุนภาคเอกชนจะชะลอ และท้ายที่สุด “เศรษฐกิจมหภาค” ก็จะไร้พลังหนุนส่ง

ขณะที่จีนกำลังปรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจใหม่ หันเหจากการพึ่งพาการส่งออกมาเน้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น การที่ “คนไม่มีเงินใช้-ไม่มีงานมั่นคง” คือ จุดอ่อนร้ายแรง ที่อาจล้มแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งแผนได้ในพริบตา

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่า โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลจีนวันนี้ไม่ใช่แค่รักษาเสถียรภาพ... แต่ต้องเรียกศรัทธาเศรษฐกิจกลับคืนมา ก่อนที่ประชาชนจะเลิกหวัง