xs
xsm
sm
md
lg

Bitcoin พุ่งทะลุ 116,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ฟันธง "เป้าต่อไป" 130,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดคริปโตฯ กลับมาเดือด! เมื่อบิทคอยน์ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ทะยานขึ้นเหนือ 116,000 ดอลลาร์ ส่งสัญญาณปลุกความบ้าคลั่งรอบใหม่ให้แก่นักลงทุนทั่วโลก และบรรดานักวิเคราะห์ชั้นนำต่างฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า "การขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่แค่ฟลุค" พร้อมประเมิน "เป้าหมายต่อไป" ไว้ที่ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปลายปีนี้

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกำลังอยู่ในภาวะ “กระทิงคลั่ง” อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อบิทคอยน์ Bitcoin (BTC) ทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ ด้วยการทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วจนแตะระดับ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างความตื่นเต้นและจุดประกายความหวังครั้งใหญ่ให้กับนักลงทุนทั่วโลก และการขึ้นครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มาที่ไป เพราะข้อมูลเชิงลึกจากนักวิเคราะห์และตัวชี้วัดในเครือข่าย (on-chain data) บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า นี่คือ "คลื่นลูกใหม่" ที่กำลังจะพา Bitcoin ไปสู่จุดสูงสุดที่คาดไม่ถึง

รายงานจากนักวิเคราะห์หลายสำนักต่างแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคาของ Bitcoin กำลังถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรระยะสั้นอีกต่อไป โดยหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักคือ "กระแสเงินทุนจากนักลงทุนสถาบัน"* ที่ไหลเข้าสู่กองทุน Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ ตัวชี้วัดสำคัญอย่าง "Short-Term Holder Realized Price" (STH-RP) ซึ่งเป็นราคาต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้น ก็ยังคงเป็น "แนวรับที่แข็งแกร่ง" ที่ช่วยพยุงราคาไม่ให้ร่วงลงไปง่ายๆ

การวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นว่า การที่ราคา Bitcoin สามารถยืนหยัดอยู่เหนือระดับจิตวิทยาที่สำคัญหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึง "ความเชื่อมั่น" ที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้เข้าร่วมตลาด ทั้งในส่วนของนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้ามาผ่านช่องทาง ETF และนักลงทุนรายย่อยที่กลับมาสู่ตลาดอีกครั้งหลังจากราคาพุ่งขึ้น

ที่มา: Coinglass
นอกจากนี้การขึ้นของบิทคอยน์ ยังเป็นไปตาม "วัฏจักรหลัง Halving" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อุปทาน Bitcoin ใหม่จะถูกลดลงครึ่งหนึ่งในทุกๆ สี่ปี ในอดีต เหตุการณ์นี้มักจะนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาอย่างมีนัยสำคัญในอีกหลายเดือนต่อมา และในครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย

บรรดานักวิเคราะห์ได้กำหนดเป้าหมายราคาต่อไปของ Bitcoin ไว้ที่ระดับ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงการคาดการณ์ที่ผสมผสานกันระหว่างการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน โดยเชื่อว่าหาก Bitcoin สามารถรักษาระดับราคาปัจจุบันและมีแรงซื้อจากสถาบันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง การพุ่งไปถึงระดับ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ประมาณเดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงเตือนให้ระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีความอ่อนไหวต่อข่าวสารและสภาพเศรษฐกิจมหภาค แต่สำหรับตอนนี้ "สัญญาณ" ทั้งหมดชี้ไปในทิศทางเดียวกัน และกำลังบอกว่า "ขาขึ้นที่แท้จริง" อาจเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้การพุ่งทะลุ 116,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของ Bitcoin คือการตอกย้ำว่า "ฤดูกาลกระทิง" ที่หลายคนเฝ้ารอได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรแบบ "ขึ้นเร็ว ลงเร็ว" แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกขับเคลื่อนด้วย "เงินทุนก้อนใหญ่" จากนักลงทุนสถาบันที่ถูกกฎหมายอย่าง Bitcoin ETF ที่ไหลเข้าตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง การที่นักวิเคราะห์กล้าที่จะฟันธงตัวเลข 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คือการส่งสัญญาณที่ "ร้อนแรง" ว่าพวกเขามองเห็น "ศักยภาพ" ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความผันผวนของตลาด

อย่างไรก็ดีการที่ "Bitcoin Halving" และ "กระแส ETF" ทำงานร่วมกัน เป็นเสมือน "ระเบิดเวลา" ที่กำลังสร้างแรงระเบิดให้กับราคา Bitcoin อย่างค่อยเป็นค่อยไป การลดลงของอุปทานใหม่ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นจากสถาบันและนักลงทุนรายย่อย กำลังสร้าง "ภาวะตลาดที่สมบูรณ์แบบ" สำหรับการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่!

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องไม่ลืมว่า "การเดินทางสู่ 130,000 ดอลลาร์" ไม่ใช่ถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันจะเต็มไปด้วย "การทำกำไร" และ "ความผันผวน" ดังนั้น การเข้าสู่ตลาดในเวลานี้ต้องอาศัย "ความเข้าใจ" และ "การบริหารความเสี่ยง" ที่รอบคอบ เพราะแม้ว่าเป้าหมายจะดูสวยงามเพียงใด แต่ "ความจริง" ของตลาดคริปโตฯ คือการขึ้นที่รุนแรงก็อาจนำมาซึ่งการย่อตัวที่น่ากลัวได้เช่นกัน