หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง พักการปฏิบัติหน้าที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลาดหุ้นก็ฟื้นคืนชีพ กลับสู่ความคักคัก ดัชนี ฯ พุ่งทะยานอย่างร้อนแรง ตอบรับข่าวดีชิ้นใหญ่ติดต่อกันหลายวัน ก่อนพักปรับฐาน เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เพราะนักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อรอคอยความชัดเจนผลเจรจาภาษีสินค้าจากประเทศไทยที่สหรัฐจะเรียกเก็บในอัตรา 36%
นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมคณะผู้แทนเจรจาการค้า เดินทางไปสหรัฐและนัดหมายเจรจากับผู้แทนสหรัฐในวันที่ 3 กรกฎาคม และรายงานผลการเจรจาในรอบแรกมาแล้ว โดยบทสรุปคือ ยังไม่ได้ผลคืบหน้า ต้องเจรจากันยกต่อไป
เวียดนามบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐแล้ว โดยเปิดให้สินค้าจากสหรัฐ ส่งเข้าขายในเวียดนามในอัตราภาษี 0% แลกกับการที่สหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าของเวียดนามที่นำเข้าสหรัฐในอัตรา 20% จากเดิมเรียกเก็บในอัตรา 46%
นักลงทุนกำลังใจจดใจจ่อ ลุ้นระทึกว่า ประเทศไทยจะเจรจาต่อรองขอลดอัตราภาษีได้เพียงใด และจะต้องยื่นข้อเสนอใดให้สหรัฐจนเป็นที่พอใจ แต่การเปิดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเหลือ 0% เหมือนเวียดนาม คงทำไม่ได้ เพราะภาคเกษตรและอุตสาหกรรมของไทยจะพังพินาศทั้งระบบ
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังเจอโจทย์ยาก ในการโน้มน้าว ยื่นข้อเสนอ เพื่อต่อรองภาษีการค้ากับสหรัฐ ซึ่งควรจะต่อรองให้ได้ในอัตราที่ต่ำกว่า 20% หรือต่ำกว่าอัตราภาษีที่สหรัฐตกลงกับเวียดนาม
การเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ กลายเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางตลาดหุ้นระยะสั้น ดัชนี ฯ ที่หยุดชะงักเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนรอคอยบทสรุปของการเจรจา และหากยังไม่มีความคืบหน้าใด นักลงทุนคงชะลอการซื้อขาย ทำให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเงียบเหงาต่อไป
ตัวเลขภาษีการค้าที่สหรัฐเรียกเก็บสินค้านำเข้าจากประเทศไทย จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า หุ้นจะร่วง หรือเดินหน้าไปต่อ โดยอัตราภาษี 20% ที่เวียดนามต่อรองได้ จะเป็นตัวเลขอ้างอิงของประเทศไทย
ถ้าสามารถเจรจาต่อรองในอัตราที่ต่ำกว่า 20% น่าจะเป็นผลบวกต่อประเทศไทย ถ้าต้องเสียในอัตราสัก 15% หุ้นน่าจะพุ่งขึ้นตอบรับ แต่ถ้าการเจรจาล้มเหลว และถูกเรียกเก็บภาษีเกินกว่า 20% จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ การส่งออก และตลาดหุ้นในครึ่งปีหลัง
นักลงทุนจะแห่กันเทขายหุ้นทิ้ง จนดัชนี ฯ อาจถอยรูดไปตั้งหลักบริเวณ 1000 จุด ได้
ประมาณการเป้าหมายดัชนี ฯ หุ้นปลายปีนี้ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 1231 จุด แต่ถ้าการเจรจาภาษีการค้าล้มเหลว จะต้องทบทวนปรับลดประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นกันอีกรอบ
เช่นเดียวกับประมาณการอัตราเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ในปีนี้ ซึ่งแบงก์ชาติมองโลกสวย ล่าสุดปรับ GDP เพิ่มขึ้นเป็น 2.3% จากเดิม 2% แต่จะต้องกลับมาเขย่าตัวเลขกันใหม่ และอาจปรับลดเป้าหมาย GDP เหลือระดับ 1% ก็ได้
ระยะเวลาผ่อนผันการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ของสหรัฐ เริ่มนับถอยหลังแล้ว โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศ หลังจากวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ประทเศใดยังไม่มีข้อสรุปผลเจรจาการค้า จะบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ตามที่ประกาศไว้ทันที
สินค้าจากประเทศไทยที่ส่งไปขายสหรัฐ จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 36% ซึ่งการส่งออกคงเกิดโกลาหลครั้งใหญ่
ตลาดหุ้นจะปั่นป่วน ดัชนี ฯ ปักหัวลงอีกครั้ง
สัปดาห์นี้ เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนเฝ้าจับตา การเจรจาภาษีกับสหรัฐจะบรรลุเป้าหมาย หรือล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนการเจรจาของทีมนายพิชัยในรอบแรก
ดัชนี ฯ หุ้นจะเดินหน้าต่อไปถึงระดับ 1200 จุด หรือร่วงพลอยลงมาแตะระดับ 1000 จุด ลุ้นระทึกกันสัปดาห์นี้ละ