xs
xsm
sm
md
lg

สแตนชาร์ตมั่นใจบีทีซีนิวไฮไตรมาส3 แรงซื้อต่อเนื่องดันทะลุ$200Kสิ้นปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดเชื่อบิตคอยน์แรงต่อเนื่องตลอดปี และมีแนวโน้มส่งท้ายปี 2025 ที่ราคาทะลุ 200,000 ดอลลาร์
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดเชื่อครึ่งปีหลังบิตคอยน์ยังแรงต่อเนื่องจากกระแสการเข้าซื้อของภาคธุรกิจและความนิยมใน Bitcoin ETF กระทั่งไม่มีแนวโน้มว่า วงจรฮาล์ฟวิ่งจะฉุดรั้งราคาบีทีซีไว้ได้ โดยนักวิเคราะห์ของสแตนชาร์ตคาดราคาบิตคอยน์สิ้นไตรมาส 3 นี้จะวิ่งไปแตะ 135,000 ดอลลาร์ ก่อนปิดท้ายปีทะลุ 200,000 ดอลลาร์

เจฟฟ์ เคนดริก หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ชี้ว่า จากกระแสที่นักลงทุนยังหลั่งไหลเข้าลงทุนในบิตคอยน์เพิ่มมากขึ้น ธนาคารจึงเชื่อว่า บีทีซีจะสามารถข้ามผ่านวงจรเดิมที่ราคามักร่วงลงหลังปรากฏการณ์ฮาล์ฟวิ่ง 18 เดือน ซึ่งสำหรับวงจรปัจจุบันนั้นช่วงเวลาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้

ในรายงานชิ้นนี้ เคนดริกโฟกัสที่ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากวงจรบิตคอยน์ฮาล์ฟวิ่ง หรือรูปแบบราคาที่เชื่อมโยงกับปรากฏการณ์บิตคอยน์ฮาล์ฟวิ่ง ซึ่งหมายถึงการลดจำนวนการผลิตบิตคอยน์ลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี และที่ผ่านมามักส่งผลให้ราคาบีทีซีพุ่งขึ้น

แม้วงจรฮาล์ฟวิ่ง 2 ครั้งล่าสุดในปี 2016 และ 2020 ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ตกลงหลังปรากฏการณ์ฮาล์ฟวิ่งประมาณ 18 เดือน แต่ผลประทบจากบิตคอยน์ ฮาล์ฟวิ่งครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 มีแนวโน้มแตกต่างออกไปเนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างเช่นกองทุน ETF และการเข้าซื้อของภาคธุรกิจ

หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดผู้นี้ยังอ้างอิงนโยบายสำคัญที่อาจดันราคาบิตคอยน์ให้ทะยานต่อเนื่อง เช่น ความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะแต่งตั้งประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่มาแทนเจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งอาจส่งให้ราคาบีทีซีพุ่งขึ้นเนื่องจากตลาดคาดเดาว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น รวมทั้งยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด

สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดยังคาดว่า คองเกรสส์จะผ่านกฎหมายสเตเบิลคอยน์ที่มีชื่อว่า จีเนียส ซึ่งจะทำให้มีการใช้โทเคนที่ผูกกับดอลลาร์กว้างขวางขึ้นและดึงดูดเงินทุนของนักลงทุนรายย่อยเข้าสู่ตลาดคริปโต และบิตคอยน์จะได้อานิสงส์มากที่สุด

ด้วยเหตุนี้ เคนดริกจึงเชื่อว่า ผู้ถือครองระยะยาวจะขายบิตคอยน์น้อยลงในปีนี้ และเงินทุนจะไหลเข้าไม่ขาดสายและมากกว่าความพยายามกว้านซื้อเพื่อทำกำไร ราคาบิตคอยน์จึงน่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป

เขาคาดหมายว่า ราคาบิตคอยน์จะแตะ 135,000 ดอลลาร์ภายในวันที่ 30 กันยายน และย้ำหมุดหมาย 200,000 ดอลลาร์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม หรือเกือบสองเท่าของราคาเมื่อวันพุธ (2 ก.ค.) ที่ 107,800 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุน บิตไวส์ คาดการณ์เหมือนกันว่า ราคาบีทีซีจะขึ้นไปถึง 200,000 ดอลลาร์ จากดีมานด์ของนักลงทุนประเภทสถาบันและความคืบหน้าของร่างกฎหมายควบคุมสเตเบิลคอยน์

อย่างไรก็ตาม สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ราคาบิตคอยน์อาจผันผวนในช่วงปลายไตรมาส 3 และต้นไตรมาส 4 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับรูปแบบการปรับฐานจากปรากฏการณ์ฮาล์ฟวิ่งครั้งก่อนๆ

นอกจากนั้นรายงานล่าสุดของเคนดริกยังออกมาขณะที่ข้อมูลจากโซโซแวลูระบุว่า กองทุน spot Bitcoin ETF ของอเมริกามีเงินไหลออก 342.3 ล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคาร (1 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากวันที่ 6 มิ.ย. และคิดเป็นสัดส่วน 7% ของเงินทุนที่ไหลเข้าต่อเนื่อง 15 วันที่ 4,800 ล้านดอลลาร์

กระนั้น จากรายงานของเคนดริก กระแสเงินทุนใน Bitcoin ETF และการกว้านซื้อบิตคอยน์ของบริษัทต่างๆ มีมูลค่ารวมกัน 245,000 บีทีซีในไตรมาส 2 และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า มูลค่าดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นทั้งในไตรมาสปัจจุบันและไตรมาส 4

นอกจากนั้นการที่มีเงินทุนไหลเข้า Bitcoin ETF ถึง 12,400 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าเงินทุนที่ไหลเข้า Gold ETF ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนโยกเงินจากเครื่องมือการลงทุนที่ปลอดภัยมายังบิตคอยน์แทนในช่วงเวลาที่สถานการณ์โลกตึงเครียดหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง
กำลังโหลดความคิดเห็น