ไทยพาณิชย์เผยยอดสินเชื่อและการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนมีวงเงินสะสมรวมกว่า 180,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง (2566 – 6 เดือนแรกของปี 2568) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 150,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปี (2566 – 2568) สะท้อนความมุ่งมั่นในฐานะผู้นำด้านการเงินที่ร่วมขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่แนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องกับหลัก ESG และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์ “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” (Live Sustainably) ธนาคารได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรและเศรษฐกิจไทยในมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยได้กำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ใน 3 ระยะสำคัญ ประกอบด้วย 1) การสนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้วยการให้สินเชื่อและการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนภายใต้วงเงินจำนวน 150,000 ล้านบาท ระหว่างปี 2566 – 2568 2) ปรับการดำเนินงานภายในองค์กรสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 และ 3) ตั้งเป้า Net Zero สำหรับพอร์ตสินเชื่อและการลงทุนของธนาคาร ภายในปี 2593
สำหรับความสำเร็จในการเป็นผู้นำของการสนับสนุนวงเงินเพื่อความยั่งยืนให้กับลูกค้าในทุกกลุ่มในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา สะท้อนแผนการดำเนินการของธนาคารใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) การกำหนดกลยุทธ์การลดคาร์บอนในภาคธุรกิจสำคัญ ซึ่งระบุถึงโอกาส ความท้าทาย และแนวทางการสนับสนุนการปรับตัวของลูกค้า โดยในเบื้องต้น ธนาคารได้มุ่งเป้า 4 อุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย Net Zero ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ พลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า & ระบบนิเวศ และอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ซึ่งทั้ง 4 อุตสาหกรรมนี้ก็เป็น Top 4 ที่มีสัดส่วนของยอดวงเงินเพื่อความยั่งยืนของธนาคารลดหลั่นตามลำดับในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา 2) การออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ควบคู่ไปกับการสร้างแรงจูงใจทางการเงินเพื่อสนับสนุนการปรับตัวของลูกค้าในลักษณะ win-win ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ Sustainability-Linked Loan และ Sustainability-Linked Bond ที่ปรับอัตราดอกเบี้ยตามผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เพื่อจูงใจให้ภาคธุรกิจเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม และ 3) บทบาทการเป็นพาร์ตเนอร์ที่มากกว่าการสนับสนุนด้านการเงิน โดยธนาคารได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านต่างๆ เพื่อนำไปสู่การให้ความรู้ ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะด้าน technical solutions ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของลูกค้า
"ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศจะเป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาสของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ธนาคารไทยพาณิชย์มีความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินไทยเพื่อสนับสนุนการปรับตัวของทั้งลูกค้าภาคธุรกิจและลูกค้ารายย่อย เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสของการเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทยภายใต้สังคมคาร์บอนต่ำของโลกในอนาคต โดยยึดมั่นในหลัก “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” ในการดำเนินการทั้งในระดับองค์กร ลูกค้า และสังคมไทยโดยรวม เพื่ออนาคตที่มั่นคง แข็งแรง และยั่งยืนของประเทศ"