บรรยากาศการซื้อขายหุ้นต้อนรับสัปดาห์ใหม่ วันอังคารที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฟื้นคืนสู่ความคึกคักอีกครั้ง ดัชนีหุ้นพุ่งทะยาน 20.45 จุด ทะลุขึ้นมาปิดที่ 1101.01 จุดอีกครั้ง หลังศาลรัฐธรรมนูญลงมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 สั่งพักงานนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามคำร้องกรณีคลิปการสนทนาอันฉาวโฉ่กับนายฮุนเซน ผู้นำเขมร
หุ้นที่พลิกฟื้นขึ้นมาอย่างร้อนแรง ไม่มีคำอธิบายอื่น นอกจากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลให้นางสาวแพทองธาร ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และถือเป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ กระตุ้นให้นักลงทุนกลับมาไล่ซื้อหุ้น
ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว นักลงทุนสิ้นหวังกับรัฐบาลนางสาวแพทองธาร เพราะไม่มีผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังทรุดหนัก ไม่มีมาตรการที่จะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนหกลับมาได้ จนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า
ถ้ารัฐบาลแพทองธารอยู่ต่อไป เศรษฐกิจจะฟุบหนัก ตลาดหุ้นไม่มีโอกาสฟื้น และนักลงทุนต่างชาติ คงไม่มีวันกลับมา
การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ เป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้อง และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จำนวนมาก เชื่อว่า ตลาดหุ้นจะกระเตื้องขึ้น ถ้านายก ฯ อุ๊งอิ๊งค์ออกไป
คำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดรัฐบาลแพทองธาร ตลาดหุ้นจะแสดงปฏิกิริยาตอบรับในทันที นักลงทุนทยอยกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้น และพลิกฟื้นบรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่กำลังซบเซาเงียบเหงา กลับสู่ความคึกคัก
ดัชนี ฯ พุ่งขึ้นตอบรับข่าวดีชิ้นใหญ่ทันที นักลงทุนกลับสู่ความเบิกบานอีกครั้ง
เพียงแต่การขับเคลื่อนกดดันให้นางสาวแพทองธารลงจากการเก้าอี้ เพิ่งเดินมาแค่ครึ่งทางเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงเพื่อการเมืองที่ดีกว่ายังไม่บรรลุเป้าหมาย
ตลาดหุ้นจะเบนหัวขึ้นไปไกลแค่ไหน ดัชนีฯก้าวต่อไปจนแตะ 1150 จุดได้หรือไม่
นักลงทุนคงต้องเฝ้ารอคอยติดตาม สถานการณ์ทางการเมืองต่อไป ภายใต้ความหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่ซึ่งไม่อาจประเมินได้ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่น่าจะผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หวังผลได้บ้าง สามารถเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับคืนมาได้บ้าง
ประมาณการเป้าหมายดัชนี ฯ สิ้นปี 2568 ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์บางแห่งทำนายตัวเลขมาแล้ว โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1200 จุด หรือ 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นอีกประมาณ 90 จุด
ดัชนี ฯ ปลายปีที่ 1200 จุด ตั้งขึ้นภายใต้สมมุติฐาน งบประมาณปี 2569 ผ่านการพิจารณาของสภา ฯ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การเจรจาขึ้นภาษีสินค้าจากประเทศไทย 36% ตามนโยบายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบผลสำเร็จ
ประมาณการเป้าหมายดัชนี ฯ ปีนี้ ปรับลดลงต่อเนื่อง จากต้นปีประเมินว่า ปลายปีจะอยู่ที่ 1600 จุดเศษ ปรับลงเหลือ 1500 จุด เมื่อข่าวร้ายกระหน่ำใส่ตลาดหุ้น จึงปรับลงมาเหลือ 1400 จุด ต่อมาลดเหลือ 1300 จุด ล่าสุดประมาณการเหลือพียง 1200 จุดเท่านั้น
ถ้าสิ้นปี 2568 ดัชนีหุ้นปิดลงที่ 1200 จุด เท่ากับปีนี้ จะติดลบ 200 จุด เมื่อเทียบจุดปิดสิ้นปี 2567 ที่ระดับ 1400 จุด
ครึ่งปีหลัง แนวโน้มตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร ฟื้นหรือฟุบต่อ ยากที่จะคาดเดา แต่ระยะสั้น หลังจาก “อุ๊งอิ๊งค์” ถูกสั่งพักงาน หุ้นฟื้นขึ้นมาทันตาเห็น
สะท้อนให้เห็นชัดว่า นักลงทุนพร้อมโดดกลับตลาดหุ้น ถ้ารัฐบาลนางสาวแพทองธารปิดฉากลง