xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.65-โมเมนตัมการแข็งค่าเงินบาทยังมีกำลังอยู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยประเมินกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.25-33.00 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.55-32.75 บาท/ดอลลาร์ จากระดับเปิดเช้านี้(30มิ.ย.68)ที่ 32.65 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.57-32.66 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน หรือ Sideways ของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำ โดยผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยรับรู้ในสัปดาห์นี้ รวมถึงประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ที่กำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณ (One Big Beautiful Bill Act) โดยสภาคองเกรส และที่สำคัญ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอติดตามแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะรับคำร้อง “ถอดถอนนายกรัฐมนตรี” ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่

สัปดาห์ที่ผ่านมา มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทยอยคลี่คลายลง ได้กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่วนในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอลุ้น รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ พร้อมติดตาม สถานการณ์การเมืองของไทย และพัฒนาการการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า

สำหรับ แนวโน้มเงินบาท เรามองว่า แม้โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ ทว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาอาจชะลอลง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงการเมืองของไทย ที่อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ ในกรณีที่ สถานการณ์การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น ซึ่งต้องจับตาว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะรับคำร้อง “ถอดถอนนายกรัฐมนตรี” ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ โดยความวุ่นวายของการเมืองไทยอาจทำให้บรรดานักลงทุนต่างชาติทยอยขายสุทธิสินทรัพย์ไทยและลดสถานะถือครองเงินบาท (Long THB) ได้ไม่ยาก ทั้งนี้ แม้เงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง จากประเด็นการเมืองในประเทศ ทว่า แนวโน้มเงินบาทยังขึ้นกับปัจจัยภายนอก หรือ Global Factors อย่าง ทิศทางเงินดอลลาร์และราคาทองคำเป็นสำคัญ ทำให้ หากเงินดอลลาร์ไม่ได้กลับมาแข็งค่าขึ้น หรือ ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เงินบาทไม่สามารถอ่อนค่าไปได้มากนัก โดยเงินบาท (USDTHB) ยังมีโซนแนวต้านแถว 32.65-32.75 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์) ส่วนโซนแนวรับจะอยู่แถว 32.30-32.40 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 32.10 บาทต่อดอลลาร์) อนึ่ง เมื่อประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะกลับมาอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 32.80-32.90 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์จะรีบาวด์แข็งค่าขึ้นได้ อาจต้องเห็นรายงานข้อมูลการจ้างงานที่สดใสหรือดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ทว่า เงินดอลลาร์เสี่ยงเผชิญแรงกดดัน หากผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลเสถียรภาพการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น