สงคราม Stablecoin สั่นสะเทือนเอเชีย! เมื่อ 8 ธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลีใต้ประกาศรวมหัวตั้ง "พันธมิตร" ลับสุดยอด เพื่อสร้าง Stablecoin ที่ตรึงมูลค่ากับเงินวอน ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่สถาบันการเงินผนึกกำลังเข้าสู่สมรภูมิสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มตัว เผยแพร่ 2 โมเดลเด็ด "แบบใช้ทรัสต์" และ "แบบผูกเงินฝาก" หวังปลดล็อกอำนาจทางการเงินจาก "ดอลลาร์คอยน์" ต่างชาติที่กำลังรุกคืบต่อเนื่อง
วงการการเงินโลกกำลังจับตาความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย เมื่อธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ 8 แห่งของเกาหลีใต้ ได้แก่ KB Kookmin, Shinhan, Woori, Nonghyup, Industrial Bank of Korea, Suhyup, Citibank Korea และ SC First Bank ได้ประกาศจัดตั้ง "กลุ่มพันธมิตร" เพื่อร่วมกันพัฒนา Stablecoin ที่จะผูกมูลค่ากับเงินวอนของเกาหลีใต้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารพาณิชย์จำนวนมากขนาดนี้เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบของกลุ่มความร่วมมือ
การจัดตั้งความร่วมมือนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก Open Blockchain and DID Association และ Financial Supervisory Service (FSS) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ โดยการประกาศอย่างเป็นทางการมีขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองเชิงรุกของภาคเอกชนต่อกระแสสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังมาแรง
รองผู้ว่าการอาวุโสของธนาคารกลางเกาหลี (Bank of Korea - BOK) นาย Ryoo Sang-dai ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มนำเสนอ Stablecoin ที่อิงเงินวอนในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งการมีส่วนร่วมของธนาคารพาณิชย์ในตลาด Stablecoin ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าภาคเอกชนกำลังเริ่มตอบสนองต่อสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐอเมริกาก็ได้จัดตั้งกรอบการกำกับดูแล Stablecoin ที่ตรึงมูลค่ากับดอลลาร์เป็นครั้งแรกผ่านกฎหมาย GENIUS Act และหลายประเทศอย่างเกาหลีใต้ รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Amazon ก็กำลังก้าวไปสู่การยอมรับสินทรัพย์ประเภทนี้อย่างเต็มตัว
สองโมเดลสำคัญ Stablecoin ที่ธนาคารเกาหลีใต้เตรียมเปิดตัว
ตามรายงานข่าวในท้องถิ่น การหารือเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันระหว่างธนาคารกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีการจัดตั้งความร่วมมือนี้อย่างเป็นรูปธรรมภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยธนาคารต่างๆ ได้เผยแผนเบื้องต้นสำหรับการออก Stablecoin ที่อิงเงินวอนเกาหลีไว้ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่
1.Trust-based model (โมเดลแบบใช้ทรัสต์) : โดยในรูปแบบนี้ Stablecoin จะถูกออกหลังจากที่เงินทุนของลูกค้าถูกฝากแยกไว้ในบัญชีทรัสต์โดยเฉพาะ
2.Deposit-linked model (โมเดลแบบผูกกับเงินฝาก) : โดยในรูปแบบนี้ Stablecoin จะถูกออกโดยผูกมูลค่า 1:1 กับเงินฝากในธนาคารโดยตรง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ธนาคารรายหนึ่งได้เปิดเผยถึงแรงจูงใจเบื้องหลังการรวมตัวครั้งนี้ว่า "มีความรู้สึกร่วมกันถึงวิกฤตว่า หากสิ่งต่างๆ ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เงินดอลลาร์คอยน์จากต่างชาติอาจเข้ามาครอบงำตลาดภายในประเทศได้" และเสริมว่า "ถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างความเป็นอิสระและขีดความสามารถในการแข่งขันของระบบการเงินภายในประเทศผ่านสกุลเงินดิจิทัลที่อิงเงินวอน"
การกำกับดูแลและคำมั่นสัญญาในนโยบายหาเสียงของประธานาธิบดี
แนวโน้มการมีส่วนร่วมของธนาคารครั้งนี้ สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Act) ที่เพิ่งถูกเสนอโดยสมัชชาแห่งชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงการนำระบบการอนุญาต Stablecoin มาใช้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเกาหลี (BOK) ยังคงแสดงท่าทีไม่มั่นใจต่อข้อเสนอในการเปิดตัว Stablecoin ที่อิงเงินวอน
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง นายอี แจ-มยอง (Lee Jae-myung) ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะเปิดตัวเหรียญที่ผูกกับ KRW (เงินวอน) เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่รัฐบาลของเขากำลังเร่งดำเนินการเพื่อปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของเกาหลีใต้ให้มีความทันสมัย
แม้ว่าการร่วมทุนของกลุ่มธนาคารจะเป็นรูปแบบที่นำโดยภาคเอกชน ซึ่งแตกต่างจาก Central Bank Digital Currency (CBDC) ที่ธนาคารกลางเกาหลีกำลังเตรียมการอยู่ แต่ก็มีการพูดถึงในตลาดว่าโครงการนี้สามารถขยายไปสู่การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การโอนเงินข้ามประเทศ และการชำระเงินภายในประเทศได้ในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของ Stablecoin ที่จะเข้ามาพลิกโฉมภูมิทัศน์ทางการเงินของเกาหลีใต้ในยุคดิจิทัล