xs
xsm
sm
md
lg

รมว. คลังชง”คุณสู้เราช่วย”เฟส2เข้าครม.สัปดาห์นี้ ผุดแนวคิด “รถเก่าแลกรถใหม่” ได้ส่วนลดภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พิชัย ชุณหวชิร “ รองนายกและรัฐมนตรีคลัง เร่งแก้หนี้ครัวเรือนต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อราย จำนวน 3 ล้านบัญชี มากกว่า 66 % ของหนี้ทั้งหมด ชงโครงการ”คุณสู้เราช่วย” เฟส 2 เข้าคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้( 24 มิ.ย) หากไม่ทันก็นำเข้าสัปดาห์หน้า เตรียมกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ สั่ง บสย.ค่ำประกันสินเชื่อรถยนต์ ผุดแนวคิด “รถเก่าแลกรถใหม่” เริ่มจากรถกะบะ นำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่โดยให้ส่วนลดทางภาษี

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญการแก้ไขหนี้ ที่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีหนี้อยู่ในระบบประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่ประมาณ 66 % มีมูลหนี้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาท หรือประมาณ 3 ล้านบัญชี ดังนั้นต้องเน้นแก้หนี้กลุ่มดังกล่าวให้ลดลงมากที่สุด จึงต้องมีมาตราการหรือปรับเกณฑ์แก้หนี้ครัวเรือนเพิ่มเติมโดยเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่เกินสัปดาห์หน้า ขยายเกณฑ์ “คุณสู้เราช่วย” ให้ครบคลุมมากขึ้น เพื่อสามารถแก้หนี้ครัวเรือน ที่ยังติดค้างอยู่ได้มากขึ้น โดยจะขยายเกณฑ์เพื่อให้ลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการได้มากขึ้น เช่น มาตรการ “จ่าย ปิด จบ” จากเดิมที่กำหนดหนี้เสียไม่เกิน 5,000 บาท ปรับเป็น หนี้เสียแบบไม่มีหลักประกันภาระหนี้ไม่เกิน 10,000 บาท ต่อบัญชี

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างหาแนวทางที่ทำให้ลูกหนี้ที่หลุดจากการเป็นหนี้เสียแล้วหลุดจากประวัติของเครดิตบูโรด้วยเพื่อให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้ ขณะที่ยังอยู่ระหว่างหารือกับผู้ประกอบการ Non-Bank ที่ส่นใหญ่เป็นผู้ประกอบการบัตรเครดิต และ สินเชื่อรถยนต์ เพื่อให้ร่วมทำมาตรการแก้หนี้และลดหนี้ครัวเรือนด้วย โดยในส่วนของสินเชื่อรถยนต์มีแนวคิด จะทำมาตรการให้รถกระบะเก่าอายุ 20-25 ปี ปล่อยมลพิษเยอะ เข้ามาแลกรถกระบะใหม่ โดยได้รับส่วนลดทางภาษี เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในประเทศ โดยได้เริ่มหารือกับหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว จะใช้กลไกของ บสย.ในการเข้ามาค้ำประกันเงินกู้ใหม่


คลังมอบนโยบาย ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งปีหลังอัดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1.5 แสนล้านบาท

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 1 แสนล้านบาท ซึ่ง ธอส.ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 กว่า 1.5 แสนล้านบาท ทำให้ทั้งปีปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมาย 2.41 แสนล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวดีขึ้น ส่งผลบวกต่อการจ้างงาน ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้สถาบันการเงินของรัฐปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน เน้นนำกำไรจากการทำธุรกิจจัดสรรไปกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชน ธอส.จึงจัด 4 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบด้วย

(1)สินเชื่อบ้าน Premier Home สำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยวงเงินให้กู้ตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้นเพียง 1.79% ต่อปี (2) สินเชื่อซ่อม-แต่ง และสินเชื่อซ่อม-แต่ง Plus สำหรับลูกค้ากู้เพิ่มเพื่อปรับปรุงต่อเติม ซ่อมแซมหรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย วงเงินกู้สูงสุด 3 แสนบาท โดยวงเงิน 1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1% ผ่านสินเชื่อซ่อม-แต่ง อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 2 แสนบาทถัดมา ผ่านสินเชื่อซ่อม-แต่ง Plus และ (3) สินเชื่อ Pre Finance Premium สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์คุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด ในพื้นที่ทำเลที่มีศักยภาพ 27 จังหวัด อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.9% ต่อปี


4) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) กรอบวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท สำหรับลูกค้ากลุ่มเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เพียง 0% ต่อปี ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาทต่อเดือน มีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 4,000 บัญชี เป็นวงเงินต้นคงเหลือกว่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการคุณสู้ เราช่วย ปัจจุบันได้ช่วยเหลือลูกค้าตามนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย มีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 80,939 บัญชี อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ธอส.ก็มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเฝ้าระวังพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้รวมกว่า 3.73 แสนบัญชี โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 ธอส.ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มดังกล่าวให้กลับมามีสถานะปกติแล้ว 1.35 แสนบัญชี จากมาตรการช่วยเหลือผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC-DC2)


กำลังโหลดความคิดเห็น