วงการคริปโตเคอร์เรนซีระอุอีกครั้ง! เมื่อปัญญาประดิษฐ์แถวหน้าอย่าง ChatGPT มา “ฟันธง” แนวโน้มตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งอนาคต ชี้ 3 เมกะเทรนด์สุดร้อนแรงที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมบล็อกเชนไปอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2569 นั่นคือ DePIN, RWA Tokenization และ SocialFi ที่พร้อมจะฉีกกฎการใช้ชีวิต การลงทุน และปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ที่คุ้นเคยไปตลอดกาล!
กระแสของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างสรรค์ภาพสวยๆ หรือบทกวีหวานๆ อีกต่อไป เมื่อ AI ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคตของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่เต็มไปด้วยพลวัต บทความล่าสุดได้เผยผลการวิเคราะห์จาก ChatGPT ที่ชี้ชัดถึง 3 แนวโน้มหลักที่จะเข้ามาครอบงำและกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมบล็อกเชนภายในปี 2026 ซึ่งนักลงทุนและผู้ที่สนใจต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
1. DePIN: Decentralized Physical Infrastructure Networks (เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์) คือแนวคิดสุดล้ำที่ผสานบล็อกเชนเข้ากับโลกกายภาพ DePIN คือโปรแกรมที่สร้างบนบล็อกเชน ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างและขยายโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ของตนเอง โดยจะได้รับรางวัลตอบแทนสำหรับการให้ข้อมูลหรือทรัพยากรต่างๆ เช่น การมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่าย Wi-Fi แบบกระจายศูนย์, การให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (เช่น Filecoin) หรือแม้แต่การรวบรวมข้อมูลแผนที่สำหรับยานพาหนะ (เช่น Hivemapper) แนวทางนี้ถูกมองว่าเป็นการกระจายอำนาจและทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทที่กำลังพัฒนา ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพิงโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์ และส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีให้กับทุกคน DePIN ได้ดึงดูดเงินลงทุนจาก Venture Capital (VC) จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงศักยภาพการเติบโตที่น่าจับตา
2. RWA Tokenization: Real-World Asset Tokenization (การแปลงสินทรัพย์ในโลกจริงเป็นโทเคน) ซึ่งเทรนด์ที่จะมาเชื่อมโลกการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับบล็อกเชนอย่างเต็มตัว RWA Tokenization คือการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงในโลกกายภาพ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, พันธบัตร, อสังหาริมทรัพย์, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งหนี้สิน มาแปลงให้อยู่ในรูปของโตเคนบนบล็อกเชน ทำให้สินทรัพย์เหล่านั้นมีทั้งมูลค่าทางกายภาพและดิจิทัลในเวลาเดียวกัน ความสามารถในการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือแบ่งเป็นส่วนย่อยๆ ได้ง่ายขึ้นบนบล็อกเชน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ลดต้นทุน และเพิ่มความโปร่งใสในการซื้อขายสินทรัพย์ดั้งเดิม ตัวอย่างยักษ์ใหญ่ที่กระโดดเข้ามาร่วมวงนี้แล้วคือ BlackRock และ JPMorgan Chase ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปรับใช้ และตลาดการแปลงสินทรัพย์เป็นโตเคนทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
3. SocialFi: Blockchain-based Social Media Platforms (แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช้บล็อกเชน) คือการหลอมรวมกันระหว่าง Decentralized Finance (DeFi) กับ Social Media เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว SocialFi มีเป้าหมายที่จะแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบดั้งเดิม โดยนำเสนอคุณสมบัติเด่นๆ เช่น การต่อต้านการเซ็นเซอร์, การสร้างรายได้โดยตรงสำหรับผู้สร้างเนื้อหาหรือ Influencer โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง, และการเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนตัวที่แท้จริงของผู้ใช้งาน แพลตฟอร์มเหล่านี้ (เช่น Farcaster และ Lens Protocol) มุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ใหม่ๆ ที่ผสานแรงจูงใจทางการเงินเข้ากับการมีส่วนร่วมทางสังคม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มได้จริง และมีอำนาจในการควบคุมเนื้อหาและข้อมูลของตนเองมากขึ้น ตลาดเครือข่ายสังคมแบบกระจายศูนย์ก็คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวอย่างมากเช่นกัน
อย่างไรก็ดีบทสรุปจากการคาดการณ์ของ AI ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การคาดเดาทั่วไป แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโลกของคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เทรนด์เหล่านี้กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต, การลงทุน, และการมีปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์อย่างลึกซึ้ง และที่สามารถปรับตัวและทำความเข้าใจกับเทรนด์เหล่านี้ได้ก่อน ย่อมจะคว้าโอกาสที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในครั้งนี้ไว้ได้ก่อน