สถานการณ์หุ้นใหม่ หรือหุ้นที่เสนอขายประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ยังคงย่ำแย่ เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้น ราคาต่ำจองแทบทั้งสิ้น โดยหุ้น บริษัท นูทรีชั่น โปรเพส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT เป็นหุ้นน้องใหม่ตัวล่าสุด ที่นักลงทุนที่จองซื้อต้องเจ็บหนัก เพราะราคาหุ้นต่ำกว่าจองตั้งแต่วันแรก
NUT เป็นหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายในตลาด MAI เป็นตัวที่ 5 ในปี 2568 โดยนำหุ้นจำนวน 37 ล้านหุ้น เสนอขายประชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 6.80 บาท มีค่า พี/อี เรโชประมาณ 12 เท่า
11 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่เคาะซื้อขาย และราคาต่ำกว่าจองทันที โดยเปิดที่ 6.20 บาท ไม่เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่จองซื้อได้ถอนทุน หรือขายในราคาจอง ตลอด 5 วันทำการที่เข้าซื้อขาย และล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนลงมาปิดที่ 4.78 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 2.02 บาท หรือต่ำกว่าจอง 29.70%
ปี 2567 มีหุ้นน้องใหม่เข้ามาซื้อขายกว่า 30 บริษัท และมีจำนวนกว่า 20 บริษัทที่ราคาต่ำกว่าจอง โดยมีประมาณ 9 บริษัท ซึ่งราคาต่ำกว่าจองมากกว่า 40% เช่นเดียวกับหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาซื้อขายในปี 2568 ทั้ง 5 บริษัท ซึ่งแทบไม่มีหุ้นใหม่ตัวใดรอด และ NUT เป็นหุ้นใหม่ตัวสุดท้ายที่นักลงทุนจองซื้อไว้ ต้องเจ๊งเซ่นสังเวย
มีคำถามว่า ยังมีนักลงทุนใจกล้า พร้อมเสี่ยงตาย จองซื้อหุ้น NUT อีกหรือ และหุ้นจำนวน 37 ล้านหุ้นที่นำมาเสนอขายเป็นครั้งแรกนั้น NUTเสนอขายใครที่ไหนบ้าง
เพราะในยามตลาดหุ้นซบเซาหนัก ราคาหุ้นในกระดานร่วงลงติดพื้น “ของถูก” มีให้เลือกมากมายก่ายกอง ข้อมูลบริษัทมีให้ศึกษาพิจารณาตัดสินใจ มีครบถ้วน ทำไมต้องจองซื้อหุ้นใหม่ ซึ่งข้อมูลผลประกอบการและการดำเนินงาน มีจำกัดจำเขี่ย และตั้งราคาเสนอขายหุ้นแพง เอาเปรียบนักลงทุน ที่อุตสาห์อุดหนุนจองซื้อเสียอีก
คงจะมีนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น NUT บ้าง แต่ไม่เข้าใจในความคิดและการตัดสินใจของนักลงทุนที่จองซื้อ ทั้งที่น่าจะประเมินได้ว่า มีโอกาสเจ็บตัว
การ “ลองของ” เสี่ยงดวงจองซื้อหุ้น IPO ควรปิดฉากลงเสียที ตราบที่ยังตั้งราคาเสนอขายแพงลิบลิ่ว เอาเปรียบนักลงทุน โดยหันมาร่วมมือรณรงค์ ไม่จองซื้อหุ้นใหม่ จนกว่าบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหรืออันเดอไรเตอร์ และเจ้าของหุ้นใหม่ จะมีสำนึก เลิกเอาเปรียบนักลงทุน
ไม่นำหุ้นใหม่เน่า ๆ มาหลอกขายนักลงทุนในราคาแพง ๆ
นักลงทุนที่ร่วมกัน สร้างมาตรการลงโทษหุ้นใหม่ พร้อมใจกันไม่จองซื้อแม้แต่หุ้นเดียว ถ้ารู้สึกว่าขายแพง เล่นงานบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทอันเดอไรเตอร์ และเจ้าของหุ้นให้เข็ด
หุ้นใหม่หลอกขายนักลงทุนไม่ได้ ก็เข้าตลาดหุ้นไม่ได้ อับอายขายขี้หน้ากันทุกส่วนที่ร่วมกันปล่อยหุ้นเน่าเข้ามา ซึ่งรวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในประมาณ 2 เดือนข้างหน้า จะมีหุ้นไหม้รอคิวเข้าตลาดหุ้นอีกประมาณ 5 บริษัท คำถามคือ ทำไมบริษัทจดทะเบียนใหม่เหล่านี้ จึงไม่เลื่อนแผนการเข้าตลาดไปก่อน ในเมื่อภาวการณ์ลงทุนไม่เอื้ออำนวย
เหตุผลคือ บริษัทจดทะเบียนใหม่ส่วนใหญ่ มีความจำเป็นต้องระดมทุน ซี่งการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน แทบปิดประตูตาย เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดกับการปล่อยกู้ ยกการ์ดสูง ป้องกันหนี้เสียที่จะซ้ำเติมฐานะของสถาบันการเงิน
การระดมทุน โดยการออกหุ้นกู้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังออกหุ้นกู้ลำบาก เว้นบริษัทขนาดใหญ่ เพราะบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่ง เบี้ยวหนี้หุ้นกู้ เมื่อครบกำหนดไม่มีเงินไถ่ถอนหุ้นกู้ นักลงทุนจึงเข็ดขยาดการลงทุนในหุ้นกู้
โอกาสเดียวที่บริษัทจดทะเบียนใหม่จะระดมทุนได้คือ รีบแต่งตัวเข้าตลาด นำหุ้น IPO เสนอขาย สูบเงินจากนักลงทุนที่ไม่รู้จักเข็ดกับหุ้น IPO
แต่ยังจะมีนักลงทุนตกเป็นเหยื่อหุ้น IPO อีกหรือ ยังจะเหลือนักลงทุนที่ยินยอมพลีชีพ เซ่นสังเวยหุ้นใหม่อีกหรือ
หุ้นใหม่ที่หิวโซ และเตรียมมาสูบเงินในตลาดหุ้น น่าเฝ้าดูว่า จะนำหุ้นมาขายใคร
เพราะ NUT เพิ่งปล้นเงินจากกระเป๋านักลงทุนไปหมาดๆ นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นตายกันเป็นเบือ