xs
xsm
sm
md
lg

NIAจัด900ล้านปั้นสตาร์ทอัพ ผนึกUNIDOนำนวัตกรรมสู่ระดับภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เดินหน้าปั้นสตาร์ทอัพ เผยปีหน้าเตรียมงบ900ล้านหวังดันนวัตกรรมไทยสู่ระดับภูมิภาค ล่าสุดผนึกUNIDOองค์กรระหว่างประเทศเดินหน้าโครงการ “Innovation Acceleration Programme for Decarbonization of the Cement and Concrete Industries” ตั้งเป้าขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยนำเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ องค์การมหาชน หรือ NIA
เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานของเราวางแผนในการส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ และวางงบประมาณไว้ในปีหน้าที่ประมาณ900ล้านบาท เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมของไทยไปสู่นะดับสากล เนื่องจากเล็งเห็นว่าในปัจจุบันศักยภาพของผู้ประกอบการไทยมีการยกระดับขึ้นมาได้อย่างมีนัยสำคัญ

“สตาร์ทอัพของไทยแม้จะเริ่มหลังต่างประเทศแต่ก็มีการส่งเสริมและพัฒนาซึ่งปีนี้น่าจะมีสัก5บริษัทก่อนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาและได้รับเงินทุนจากเรา และน่าจะมีโอกาสปรับเพิ่มเป็น10บริษัทได้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เขาดำเนินธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไปได้ และเชื่อว่าบริษัทที่ได้รับคัดเลือกจะมีศักยภาพเพียงพอ”

สำหรับปีนี้ทางหน่วยงานจะเน้นในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน และได้ร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) เปิดตัวโครงการ “Innovation Acceleration Programme for Decarbonization of the Cement and Concrete Industries” โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทย เร่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศและส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน

“ยกตัวอย่างการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีตในประเทศไทย” ที่ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 8 ล้านดอลลาร์แคนาดาจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของแคนาดา (ECCC) มุ่งหมายที่จะช่วยเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต ทั้ง ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และสถาบันการเงินเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันพัฒนากลยุทธ์การลดคาร์บอนที่เป็นรูปธรรม สามารถสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ของประเทศไทยให้เป็นจริง และนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

 


ดร.กริชผกา กล่าวอีกว่า สำหรับอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมจะได้รับพิจารณาตามเงื่อนไขของโครงการโดยเบื้องต้นจะให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจหลัก5ประเภทประกอบด้วย1.นวัตกรรมในอุตสาหกรรมซีเมนต์ 2.นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนและEV3.นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร4.นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว5. นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์และวัฒนธรรม

“โครงการนี้ถือเป็นกลไกสำคัญที่ สนช.ร่วมกับ UNIDO เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการสนับสนุนสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ นักวิจัย ที่มีผลงานเทคโนโลยีระดับ TRL 6 ขึ้นไป ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไปเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์ คอนกรีต และก่อสร้าง ให้มีโอกาสได้นำเทคโนโลยีไปใช้งานจริง และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ“

โครงการนี้เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมจนถึงวันที่ 23มิถุนายน 2568 โดยมุ่งเน้นสตาร์ทอัพและนักพัฒนาเทคโนโลยีด้าน:
• Process Improvement Technology – เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
• Waste Circular Technology – เทคโนโลยีด้านการรีไซเคิล/หมุนเวียนของเสีย
• Decarbonization Technology – เทคโนโลยีลดการปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจก
ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในระดับประเทศและนานาชาติ ได้รับโอกาสเสนอผลงานต่อผู้บริหารในอุตสาหกรรม เข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุน และจับคู่ธุรกิจกับพันธมิตรที่เหมาะสม พร้อมโอกาสพัฒนาต้นแบบหรือโครงการนำร่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น