โลกปั่นป่วนจากสงครามอิสราเอล-อิหร่าน แต่ไมเคิล เซย์เลอร์ แห่ง MicroStrategy ไม่หวั่น! ประกาศทุ่ม 1,050 ล้านดอลลาร์ซื้อบิทคอยน์ 10,100 เหรียญ แม้ตลาดผันผวนหนัก สะท้อนสัญญาณความมั่นใจใน "ทองคำดิจิทัล" ขณะที่ราคา BTC ทรงตัวที่ 105,000 ดอลลาร์
ไมเคิล เซย์เลอร์ เดิมพันหนัก! ซื้อบิทคอยน์ท่ามกลางวิกฤต
โลกกำลังร้อนระอุจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่ปะทุหนักหลังการโจมตีทางอากาศที่กรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ตลาดการเงินทั่วโลกสั่นคลอน น้ำมันผันผวน ทองคำพุ่ง แต่ ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน MicroStrategy กลับมองว่านี่คือโอกาสทอง! เขาประกาศผ่านโพสต์บน X เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนว่า บริษัทของเขาเพิ่งซื้อ บิทคอยน์ 10,100 เหรียญมูลค่าประมาณ 1,050 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 104,080 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ส่งผลให้ MicroStrategy ถือครองบิทคอยน์ทั้งสิ้น 592,100 BTC มูลค่ารวมกว่า 41,840 ล้านดอลลาร์
MicroStrategy เจ้าพ่อบิทคอยน์องค์กร
MicroStrategy ไม่ใช่แค่บริษัทซอฟต์แวร์เล็ก ๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการคริปโตด้วยกลยุทธ์ซื้อและถือบิทคอยน์ระยะยาว Saylor ซึ่งถูกเรียกว่า "นักเทศน์แห่งบิทคอยน์" เชื่อว่า BTC คือ ทองคำดิจิทัล ที่จะปกป้องมูลค่าทรัพย์สินจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การซื้อครั้งล่าสุดนี้ทำให้ราคาเฉลี่ยต่อเหรียญของบริษัทอยู่ที่ 70,666 ดอลลาร์ และให้ผลตอบแทนปี 2568 สูงถึง 19.1%
ในส่วนของข้อมูลจาก SaylorTracker ยังเผยว่า การลงทุนในบิทคอยน์ของ MicroStrategy มีกำไรที่ยังไม่รับรู้ (unrealized gains) กว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากเงินลงทุนเริ่มต้น
อย่างไรก็ตาม เซเลอร์ไม่หยุดแค่นั้น โดยเขายังระดมทุนเพิ่มผ่านการออกหุ้นบุริมสิทธิที่หนุนด้วยบิทคอยน์ (STRD) มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำเงินไปซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีก เป้าหมายคือพา MicroStrategy ถือครอง BTC เกิน 600,000 เหรียญ ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาใกล้จะถึงแล้ว
สงครามอิสราเอล-อิหร่าน ตัวแปรที่สั่นสะเทือนตลาด
ความขัดแย้งในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงเมื่ออิสราเอลโจมตีโรงงานน้ำมันและก๊าซของอิหร่าน สร้างความหวาดกลัวว่าสงครามอาจลุกลาม ข้อมูลจาก X รายงานว่า อิหร่านขู่ตอบโต้หนัก โดยผู้นำสูงสุด อะยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ประกาศว่า “กองทัพอิหร่านจะไม่ปล่อยให้อิสราเอลรอดพ้นการลงโทษ” ส่งผลให้ตลาดการเงินตอบสนองต่อท่าทีดังกล่าวทันทีได้แก่
น้ำมัน : ราคาน้ำมันดิบทรงตัวที่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ค่าขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางจะพุ่ง
ทองคำ : พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่บิทคอยน์ร่วง 1.6% ในวันแรกของการโจมตี หนักกว่าดัชนี S&P 500
บิทคอยน์ : ราคาร่วงจาก 107,000 ดอลลาร์สู่ 102,664 ดอลลาร์ในวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนฟื้นตัวที่ 106,000-107,000 ดอลลาร์ในวันที่ 16 มิถุนายน
ด้านนักวิเคราะห์จาก The Wall Street Journal ชี้ว่าบิทคอยน์ยังไม่สามารถผลักดันในการเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ได้เต็มที่ในวิกฤตนี้ ต่างจากทองคำที่พุ่งทันทีเมื่อเกิดความตึงเครียด อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของบิทคอยน์แสดงถึงความยืดหยุ่นโดยได้แรงหนุนจาก ETF บิทคอยน์ และการซื้อจากสถาบันอย่าง MicroStrategy
ทำไม เซเลอร์ถึงกล้าซื้อบิทคอยน์เพิ่มในตอนนี้?
ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปหวาดกลัวแต่เซเลอร์มองว่าวิกฤตคือโอกาสโดยเขาโพสต์กราฟราคาบิทคอยน์บน X เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ส่งสัญญาณการซื้อครั้งใหญ่ ก่อนยืนยันการซื้อในวันถัดมา โดยเหตุผลที่ทำให้เขามั่นใจอาจรวมถึงแนวโน้มราคาในอนาคตที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
ความเชื่อในบิทคอยน์ : เซเลอร์ มองว่า BTC เป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งกว่าสกุลเงิน fiat ในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจพุ่ง
จังหวะตลาด: การร่วงของราคา BTC จาก 107,000 ดอลลาร์สู่ 102,664 ดอลลาร์หลังการโจมตีของอิสราเอล เปิดโอกาสให้ MicroStrategy ซื้อในราคาที่ต่ำกว่า
แรงหนุนจาก ETF: กระแสเงินไหลเข้าสู่ ETF บิทคอยน์ยังแข็งแกร่ง ช่วยพยุงราคาและเพิ่มความเชื่อมั่นของสถาบัน
กลยุทธ์ระยะยาว : เซเลอร์ ย้ำในการประชุมนักลงทุนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมว่า MicroStrategy จะ “ซื้อและถือบิทคอยน์ไม่มีกำหนด”
ความเสี่ยงที่เซเลอร์ต้องเดิมพัน
ถึงแม้ว่าเซเลอร์จะมั่นใจ แต่การซื้อครั้งนี้ไม่ใช่ไร้ความเสี่ยงเสียทีเดียวโดยความเสี่ยงที่เซเลอร์อาจต้องเจอได้แก่
ความผันผวนจากสงคราม : โดย Nic Puckrin จาก Coin Bureau เตือนว่า หากอิหร่านปิด ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญ ราคาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิทคอยน์อาจร่วงหนักในระยะสั้น
ต้นทุนที่สูงขึ้น : ด้วยราคาเฉลี่ยที่ 70,666 ดอลลาร์ต่อเหรียญ การซื้อที่ราคา 104,080 ดอลลาร์ทำให้ MicroStrategy มี “พื้นที่ขาดทุน” น้อยลงหากราคา BTC ร่วง
ความหวังในสันติภาพ : นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า หากมีการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ราคาน้ำมันและความตื่นตระหนกในตลาดอาจลดลง ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อบิทคอยน์ที่มักได้ประโยชน์จากวิกฤต
บิทคอยน์ ยังคงสถานะคลุมเครือระหว่างทองคำดิจิทัลหรือสินทรัพย์เสี่ยง?
การเคลื่อนไหวของเซเลอร์ทำให้เกิดคำถามว่า บิทคอยน์จะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยคล้ายทองคำในยามวิกฤตหรือไม่? ข้อมูลจากอองเดร โดรกูส์ นักวิจัยจาก Bitwise ชี้ว่า ในอดีต บิทคอยน์มักร่วงระยะสั้นเมื่อเกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งสหรัฐฯ-อิหร่านปี 2563 แต่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว การที่บิทคอยน์ทรงตัวที่ 105,000-107,000 ดอลลาร์ท่ามกลางสงครามครั้งนี้ สะท้อนว่าบทบาทของมันกำลังเปลี่ยนจากสินทรัพย์เก็งกำไรสู่สินทรัพย์ที่สถาบันยอมรับมากขึ้น
นักลงทุนควรวางแผนอย่างไร?
สำหรับนักลงทุนคริปโต การซื้อของเซเลอร์เป็นทั้งสัญญาณบวกและคำเตือน ได้แก่
จับตาความขัดแย้ง : หากสงครามอิสราเอล-อิหร่านลุกลาม โดยเฉพาะการโจมตีโครงสร้างน้ำมันหรือปิดช่องแคบฮอร์มุซ อาจฉุดราคาบิทคอยน์ลงในระยะสั้น
ETF และสถาบัน: กระแสเงินไหลเข้าจาก ETF และการซื้อของ MicroStrategy เป็นตัวหนุนราคาในระยะยาว
บริหารความเสี่ยง : อย่า all-in เพราะความผันผวนของบิทคอยน์ยังสูง โดยเฉพาะเมื่อเผชิญปัจจัยภายนอกอย่างสงครามและนโยบายการเงิน
มองระยะยาว : หากเชื่อในวิสัยทัศน์ของเซเลอร์ การร่วงของราคาอาจเป็นโอกาสซื้อสะสม
ทั้งนี้จากกราฟที่โพสต์บน X สู่การซื้อบิทคอยน์มูลค่าพันล้าน ไมเคิล เซย์เลอร์ กำลังเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ MicroStrategy และวงการคริปโต ท่ามกลางควันปืนในตะวันออกกลาง เขาเดิมพันว่าบิทคอยน์คืออนาคตของการเงินโลก แต่เมื่อสงครามอิสราเอล-อิหร่านยังไม่จบ และตลาดการเงินยังผันผวน คำถามใหญ่คือ การเดิมพันของ Saylor จะพาเขาไปสู่ชัยชนะ หรือกลายเป็นความเสี่ยงที่ประเมินผิด? นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตา