xs
xsm
sm
md
lg

"อเล็กซานเดอร์ หวัง" เทพเซียน AI ปฏิวัติโลก จาก MIT สู่เศรษฐีพันล้าน เขี้ยวเล็บใหม่ของ Meta

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นับตั้งแต่ก่อตั้ง Scale AI ขึ้นในวัยเพียง 19 ปี อเล็กซานเดอร์ หวัง (Alexandr Wang) ไม่ใช่แค่สร้างสตาร์ทอัป – แต่ยังปั้นมูลค่าหุ้นองค์กรจนทะยานแตะ 29 พันล้านดอลลาร์ และกลายเป็นบุคคลศูนย์กลางในยุทธศาสตร์ AI

จากเด็กอัจฉริยะที่ทิ้ง MIT สู่มหาเศรษฐีพันล้านในวัย 25 ปี อเล็กซานเดอร์ หวัง ผู้ก่อตั้ง Scale AI กำลังเขย่าวงการเทคโนโลยีโลก! ด้วยวัยเพียง 28 ปี เขานำพาบริษัทมูลค่า 1 ล้านล้านบาท และล่าสุดถูก Meta ทุ่มเงิน 4.5 แสนล้านคว้าตัวไปพัฒนา AI เหนือมนุษย์ เขาคือใคร และทำไมถึงเป็นที่จับตา?

อัจฉริยะ AI ที่โลกต้องจับตา

ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนทุกสิ่ง อเล็กซานเดอร์ หวัง คือชื่อที่ร้อนแรงที่สุดใน Silicon Valley! วัยเพียง 28 ปี แต่เขาคือผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ Scale AI สตาร์ทอัพด้านการติดฉลากข้อมูล (data labeling) ที่ช่วยบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, OpenAI และ Etsy พัฒนา AI ขั้นสูง ด้วยมูลค่าบริษัทที่พุ่งทะยานถึง 29,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1 ล้านล้านบาท) และล่าสุด Meta ทุ่มเงิน 14,300 ล้านดอลลาร์* (ราว 4.5 แสนล้านบาท) เข้าถือหุ้น 49% พร้อมดึงตัว Wang ไปนำทัพ “Superintelligence Lab” เพื่อสร้าง AI เหนือมนุษย์ (Artificial Superintelligence - ASI)

จากเด็กเนิร์ดสู่มหาเศรษฐีวัย 25

Wang เกิดในปี 1997 ที่ Los Alamos รัฐนิวเม็กซิโก ในครอบครัวนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ชาวจีนที่ทำงานใน Los Alamos National Laboratory แหล่งกำเนิดระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมจุดประกายให้เด็กหนุ่มหลงใหลในการเขียนโค้ดตั้งแต่วัยรุ่น ด้วยวัยเพียง 17 ปี เขาได้งานวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ Addepar และ Quora ใน Silicon Valley ก่อนเข้าเรียนที่ MIT แต่เพียงปีแรก เขาก็ทิ้งมหาวิทยาลัยเพื่อก่อตั้ง Scale AI ในปี 2016 ร่วมกับ Lucy Guo เมื่ออายุเพียง 19 ปี!

เพียง 5 ปี Scale AI พุ่งสู่สถานะยูนิคอร์น และในปี 2565 หวัง ก็กลายเป็น มหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัย 25 ปี ด้วยมูลค่าสินทรัพย์กว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 68,000 ล้านบาท)

Scale AI ตัวช่วย AI ยักษ์ใหญ่

Scale AI ไม่ใช่แค่สตาร์ทอัพทั่วไป แต่เป็นฟันเฟืองสำคัญในวงการ AI โดยให้บริการติดฉลากและจัดการข้อมูลเพื่อฝึกโมเดล AI ให้แม่นยำยิ่งขึ้น ลูกค้าของ Scale รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI, Microsoft และแม้แต่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งหวังเคยเซ็นสัญญาพัฒนาระบบ AI สำหรับการวางแผนการทหารในชื่อ ThunderForge ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยง Silicon Valley กับ Washington เขาได้ขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสและสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญอย่าง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ซึ่งเคยเป็นรูมเมทของหวังในช่วงโควิด-19

Meta ทุ่มหมื่นล้าน ดึงหวังสู่ภารกิจ AI

ในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 Meta ภายใต้การนำของ Mark Zuckerberg ประกาศลงทุนมหาศาลใน Scale AI และดึงตัว Wang ไปเป็นหัวหอกใน Superintelligence Lab เพื่อพัฒนา AI ที่ฉลาดเกินมนุษย์ ดีลนี้ไม่เพียงเพิ่มมูลค่า Scale AI เป็น 29,000 ล้านดอลลาร์ แต่ยังทำให้ Wang กลายเป็นหนึ่งในผู้นำ AI ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก นอกจากนี้ ทีมงานบางส่วนจาก Scale AI จะย้ายไปทำงานกับ Meta ด้วย ขณะที่ หวังยังคงนั่งบอร์ดของ Scale AI และ Jason Droege จะขึ้นเป็น CEO ชั่วคราว

Zuckerberg เองมองว่าหวังซึ่งไม่มีพื้นฐานด้านวิจัย แต่เก่งกาจในการสร้างธุรกิจ AI เป็น “ผู้นำในยามสงคราม” ที่จะช่วย Meta แซงหน้าคู่แข่งอย่าง OpenAI และ Google ในศึก AI ที่กำลังแข่งขันกันสูง

ความท้าทายในสงคราม AI ที่กำลังเดือดพล่าน

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหวังจะได้รับการยกย่อง แต่ Scale AI ก็ไม่วายเจอข้อครหา โดยเฉพาะการใช้แรงงานคอนแทรคเตอร์ในต่างประเทศที่ได้รับค่าจ้างต่ำเพื่อจัดการข้อมูลที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ซึ่งบางคนระบุว่าได้รับผลกระทบทางจิตใจ ซึ่งหวังเคยชี้แจงในปี 2562 ว่าแรงงานเหล่านี้ได้รับค่าจ้าง “ดี” เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในพื้นที่ของพวกเขา แต่ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียง

นอกจากนี้ การที่หวังเลือกทำงานกับกองทัพสหรัฐฯ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากนักลงทุนและพนักงานบางส่วนที่กังวลเรื่องจริยธรรม แต่หวังยืนกรานว่านี่คือ “หน้าที่ทางศีลธรรม” เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ

อนาคตของหวังและวงการ AI

ด้วยวัยเพียง 28 ปี อเล็กซานเดอร์ หวังได้พิสูจน์ว่า อายุหรือวุฒิการศึกษาไม่ใช่ข้อจำกัดในการเปลี่ยนโลก การย้ายไป Meta เพื่อพัฒนา AI เหนือมนุษย์อาจเป็นก้าวสำคัญที่กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีโลก และด้วยความสัมพันธ์กับผู้นำอย่าง Sam Altman และการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่อย่าง Meta เขาคือม้ามืดที่อาจกลายเป็น Elon Musk คนต่อไป

ขณะที่วงการ AI ยังคงจับตาว่าหวังจะพา Meta ไปถึงเป้าหมาย “ซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์” ได้หรือไม่ และ Scale AI จะรักษาความเป็นผู้นำในวงการได้หรือเปล่า? แต่ที่แน่ ๆ เด็กหนุ่มจาก Los Alamos ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการเทคโนโลยีแล้ว!