xs
xsm
sm
md
lg

DV8 พุ่ง1,600%..อินไซด์หรือปั่นหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในไตรมาสที่ 2 หุ้นที่ครองความร้อนแรงที่สุด น่าจะไม่มีใครแย่งชิงตำแหน่งแชมป์จากหุ้นบริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 ไปได้ เพราะราคาพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวขึ้นไป 1600% แล้ว ทั้งที่ไม่มีปัจจัยใด ๆ หนุน และถูกตลาดหลักทรัพย์ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายก็ตาม

เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา หุ้น DV8 ยังเคลื่อนไหวอยู่แถว 35 สตางค์ ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง วันละไม่กี่พันบาท เช่นเดียวกับ DV8-W2 หรือใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปิดที่ 0.04 สตางค์ และมูลค่าการซื้อขายเพียงไม่ระดับหมื่นหน่วยหรือวันละไม่กี่ร้อยบาทต่อวัน

แต่หลังจากนั้น ทั้งหุ้น DV8 และ DV8-W2 พุ่งขึ้นตลอด ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่นขึ้น ก่อนจะมีข่าวลือว่า บริษัทจากญี่ปุ่น สนใจครอบงำกิจการหรือเทกโอเวอร์ DV8

ตลาดหลักทรัพย์สอบถามถึงข่าวลือและพัฒนาการใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น ซึ่งฝ่ายบริหาร DV8 ตอบกลับมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยปฏิเสธข่าวลือบริษัทญี่ปุ่นจะเข้าเทกโอเวอร์บริษัทฯ และบริษัทไม่มีพัฒนาการใด ๆ ที่มีผลต่อราคาหุ้น

แม้ปฏิเสธข่าวลือการเทกโอเวอร์และบริษัทไม่มีพัฒนาการใดที่ส่งผลต่อราคาหุ้น แต่หุ้น DV8 ยังถูกลากขึ้นต่อไป สวนทางภาวะตลาดหุ้นที่ตกต่ำ และบริษัทไม่มีข่าวดีอะไรสนับสนุน จนวันที่ 30 พฤษภาคม ตลาดหลักทรัพย์ ฯ จึงประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น DV8 ในขั้นที่ 1 โดยกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสดหรือบัญชีแคชบาลานซ์ และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น

แต่มาตรการดับหุ้นร้อนของตลาดหลักทรัพย์ ไม่อาจสยบหุ้น DV8 ได้ ราคาที่ชะงักเพียงแค่ 1 หรือ 2 วัน ได้เด้งกลับขึ้นมาใหม่ ท้าทายการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ เย้ยหยันมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น จนวันที่ 10 มิถุนายน ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ได้ประกาศขยายเวลาของมาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 ออกไปอีกจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

ราคาหุ้น DV8 ล่าสุดได้สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี โดยทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.95 บาท เมื่อเทียบกับจุดปิดวันที่ 24 มินาคม เพิ่มขึ้น 5.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1,600%

ขณะที่ DV8-W2 ร้อนแรงยิ่งกว่า จากราคาปิด 4 สตางค์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ล่าสุดวันที่ 13 มิถุนายน ปิดที่ 3.32 บาท เพิ่มขึ้น 3.28 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8,300% ภายในเวลาประมาณ 3 เดือนครึ่ง

ไม่มีใครรู้ว่า หุ้น DV8 จะแสดงปาฏิหาริย์ไปอีกยาวนานเท่าไหร่ ราคาจะถูกลากขึ้นไปสูงสุดในรอบนี้ที่เท่าใด

แต่เชื่อว่า ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ยังจับตาความเคลื่อนไหวหุ้นตัวนี้อย่างใกล้ชิด และเกาะติดการซื้อขายในแต่ละวัน

หุ้นในตลาด MAI นับสิบบริษัท กำลังปะทุขึ้นมาใหม่ ย้อนยุคสู่การเฟื่องฟูของหุ้นปั่น พฤติกรรมการจุดพลุ การปล่อยข่าว สร้างราคาหุ้น ล่อหลอกนักลงทุนรายย่อยให้ตามแห่เข้ามาเก็งกำไรกำลังฟื้นคืนชีพ

หุ้น DV8 กลายเป็นจ่าฝูง หุ้นที่มีพฤติกรรมการซื้อขายที่ผิดปกติ และไม่ควรเกิดขึ้น ในยามที่นักลงทุนรายย่อยเจ็บจนวันตายจากการเล่นหุ้นปั่นในอดีต

และไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ในยามที่ตลาดหลักทรัพย์เข้มงวดกับการกำกับดูแล ตรวจสอบ พฤติกรรมการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติ

แต่ทำไมหุ้น DV8 จึงบังอาจเย้ยหยันท้าทายตลาดหลักทรัพย์ และฝ่ายบริหารตลาดหลักทรัพย์ จะทนนั่งดู DV8 ต่อไป โดยไม่มีมาตรการสยบหรือ

ราคาหุ้น DV8 ที่ถูกลากขึ้นมาอย่างเย้ยฟ้าท้าดินตลอด 3 เดือน มีเบื้องหลังอยู่เพียง 2 ประเด็นเท่านั้น

จะต้องมีอินไซเดอร์หรือมีคนที่ล่วงรู้ข้อมูลภายใน และทยอยเข้ามาเก็บหุ้นดักรอข่าวดีที่ยังไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะชน หรือมีกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการปั่นราคาหุ้น

แต่ไม่ว่าเบื้องหลังความร้อนแรงของหุ้น DV8 จะเกิดขึ้นจากอะไรก็ตาม แต่ทั้งอินไซด์และการปั่นหุ้น ถือเป็นความผิด ซึ่งสร้างความเสียหายให้ประชาชนผู้ลงทุนทั้งสิ้น

ตลาดหลักทรัพย์อาจตรวจสอบการซื้อ และพบความผิดปกติ โดยรายงานข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อสอบสวนข้อมูลในเชิงลึกเพิ่มเติมแล้ว

ถ้าตลาดหลักทรัพย์ฯตรวจพบการซื้อขายที่ผิดปกติ ควรที่จะแจ้งเตือนประชาชนผู้ลงทุนทราบทันที เพื่อตัดตอนความเสียหายไม่ให้กระจายในวงกว้าง เช่นเดียวกับในอดีตเมื่อประมาณเกือบ 40 ปีก่อน

เพราะเมื่อตลาดหลักทรัพย์พบความผิดปกติหุ้นตัวใด เมื่อส่งข้อมูลให้กระทรวงการคลังพิจารณาสอบสาวนดำเนินคดี จะแจ้งให้นักลงทุนรับทราบ และหลีกเลี่ยงหรือถอยห่างจากหุ้นที่มีความผิดปกติ หรือมีพฤติกรรมปั่น

เมื่อตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบพบความผิดปกติในหุ้นตัวใด จะส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนถึงหุ้นตัวอันตรายในทันที

มาตรการดี ๆ ตีวงล้อมกรอบหุ้นปั่น ไม่ให้สร้างความเสียขายกระจายสู่นักลงทุนในวงกว้าง โดยแจ้งข้อมูลหุ้นตัวอันตรายเตือนภัยนักลงทุนถูกซุกไว้ที่ไหน

ไม่รู้ว่า ทำไมเรื่องดี ๆ ที่ช่วยปกป้องนักลงทุน จึงสูญหายไปจากตลาดหลักทรัพย์เกือบ 40 ปีแล้ว








กำลังโหลดความคิดเห็น