รอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศดำเนินคดีความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับตลาดหุ้นออกมาเป็นระลอก
เริ่มตั้งแต่กล่าวโทษทางอาญา ผู้บริหารบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ในความผิดแต่งบัญชีงบการเงินของบริษัทฯ ใช้มาตรการทางแพ่งลงโทษปรับผู้ถือหุ้นใหญ่และพวก บริษัท ธนบุรี เมดิเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ KDH จำนวนเงินกว่า 17 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ประกาศการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งผู้กระทำความผิด 4 ราย ในความผิดฐานสร้างราคาหุ่น บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN โดยเรียกให้ชำระเงินรวมกันจำนวนทั้งสิ้น 34.37 ล้านบาท
ผู้ร่วมกระทำผิด 4 รายประกอบด้วย นายภสุ วชิรพงศ์ หลานชายนายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ชื่อดัง นายวิชาญ วชิรพงศ์ ซึ่งน่าจะเป็นน้องชายเสี่ยยักษ์ นายอัครรัฐ วรรณรัตน์ และ (4) นายนัธทวัฒน์ พิบูลย์ธนอมร ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
ก.ล.ต ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2566 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ช่วงระหว่างวันที่ 2 - 9 กันยายน 2565 ผู้กระทำความผิด 4 ราย ซึ่งมีความสัมพันธ์กันในทางส่วนตัว เส้นทางการเงิน หรือผ่านการเชื่อมโยงกับบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกัน ได้ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) จึงมีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด
นายภสุ ต้องชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนที่เท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 32,761,239 บาท ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 28 เดือน
นายวิชาญ ต้องชำระค่าปรับทางแพ่ง รวมทั้งสิ้น 539,304 บาท ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 11 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 22 เดือน
นายนายอัครรัฐ ให้ชำระค่าปรับรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 539,304 บาท ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 11 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 22 เดือน
และนายนัธทวัฒน์ ให้ชำระค่าปรับ เป็นเงินทั้งสิ้น 539,304 บาท ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 9 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 18 เดือน โดยเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
คดีปั่นหุ้น TRITN มีความน่าสนใจในหลายประเด็น ประเด็นแรก ต้องชมเชยการทำงานของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี ในการสอบสวนหาพยานหลักฐาน และดำเนินคดีตามความผิด ซึ่งถือว่ารวดเร็ว เมื่อเทียบกับคดีปั่นหุ้นตัวอื่น เช่นหุ้น KDH ซึ่งใช้เวลาประมาณ 9 ปี จึงสรุปสำนวนดำเนินคดี
ความน่าสนใจอีกประการคือ การปั่นหุ้น TRITN เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หุ้นปั่นกำลังตายซาก พฤติกรรมการสร้างราคาหุ้นกำลังก้าวสู่ยุคการล่มสลาย เจ้ามือหุ้น เจ้าของหุ้น หรือขาใหญ่หุ้น หยุดกิจกรรมลากนักลงทุนรายย่อยเข้าไปเชือด
เพราะตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลงเต็มตัว หุ้นตัวเล็ก หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม หุ้นที่มีการกระชากราคาพุ่งทะยานอย่างหวือหวานับร้อยบริษัท ราคาดิ่งลงเหว และโปรแกรมการซื้อขายหรือ ROBOT TRADE บุกโจมตีหุ้นรายตัวที่ราคาขึ้นลงหวือหวาอย่างหนัก
กินทั้งเจ้าของหุ้น เจ้ามือหุ้น รายใหญ่และรายย่อย จนขาดทุนป่นปี้ไปตาม ๆ กัน และต้องถอยหนีจากการเก็งกำไรหุ้นตัวเล็กที่มีพฤติกรรมสร้างราคา
แก๊ง ”วชิรพงศ์” และพวกที่ปั่นหุ้น TRITN จึงอยู่ในข่ายแก๊งปั่นหุ้น “ตกยุค” เพราะเข้ามาปั่นหุ้น ในช่วงเวลาที่นักลงทุนเข็ดขยาด และ “ลาขาด”หุ้นปั่น
ประการสุดท้าย นายภสุ ซึ่งได้รับผลประโยชน์สงสุดจากการปั่นหุ้น TRITN เป็นหลานเสี่ยยักษ์ ทำไมจึงพลาด ทำไมจึงทิ้งร่องรอยของการก่ออาชญากรรม จนตบลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ตามแกะรอยจนดำเนินคดีได้
ทั้งที่เสี่ยยักษ์เล่นหุ้นมากว่า 30 ปี กอบโกยเงินจากตลาดหุ้นหลายพันล้านบาท แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีในความผิดใด แตกต่างจากเสี่ยหุ้นหลายคนที่มีคดีปั่นหุ้นติดตัว
นายภสุไม่ได้รับการถ่ายทอดวิชา หรือไม่ได้ซึมซับประสบการณ์หรือวิธีการเล่นหุ้นจากเสี่ยยักษ์มาบ้างหรือ จึงพลาดท่าเสียที ถูกตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.ดำเนินคดี
ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ฯ ช่วงนี้มีความกระฉับกระเฉง ในการกวาดบ้างอาชญากรรมในตลาดหุ้น และเร่งรัดปรับปรุงมาตรการ กำกับ ควบคุม ดูแลตลาดหุ้นให้มีความเข็มข้นขึ้น เป็นปรากฏการณ์ที่ดี
แต่อาชญากรรมในตลาดหุ้น ยังดำเนินอยู่ต่อไป ธุรกรรมที่บ่งชี้ถึงการผ่อนถ่าย ไซฟ่อนเงินออกจากบริษัทจดทะเบียนยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง และตลาดหลักทรัพย์ทำพียงการออกคำเตือนนักลงทุน และขอให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ชี้แจงปมธุรกรรมที่ต้องสงสัยการปล้นเงินของผู้ถือหุ้นรายย่อยเท่านั้น
ภารกิจในการกวาดล้างอาชญากร แก๊งมิจฉาชีพ เพื่อสร้างความใสสะอาดให้ตลาดหุ้น อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ทั้งที่ตลาดหุ้นเกิดมากว่า 50 ปีแล้ว