คดีป่วยทิพย์ “ทักษิณ” สะกดหุ้นเฉาสนิท / สุนันท์ ศรีจันทรา

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ เป็นหนึ่งในสัปดาห์ซบเซาที่สุดในรอบปี 2568 โดยนอกเหนือจากดัชนีฯที่แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆแล้ว มูลค่าการซื้อขายยังเบาบาง เฉลี่ยต่ำกว่า 30,000 บาทต่อวัน เนื่องจากนักลงทุนเฝ้ารอคอย ผลการไต่สวนคดีป่วยทิพย์ของนายทักษิณ ชินวัตร

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณได้เข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาลตำรวจ ชั้นที่ 14 ในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ ซึ่งนอกจากเป็นคดีใหญ่ที่ประชาชนให้ความสนใจแล้ว ยังเป็นคดีที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามมาได้

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนัก ได้ให้น้ำหนักกับปัจจัยทางการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะคดีป่วยทิพย์ของนายทักษิณ เพราะถือว่า เป็นคดีที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนในช่วงนี้

ตลาดหุ้นถูกถาโถมด้วยข่าวร้าย ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ จนดัชนี ฯ ซึมลง และมีแนวโน้มอาจถดถอยไปสู่ระดับ 1100 จุด เมื่อมีคดีป่วยทิพย์ของนายทักษิณเข้ามากดดันอีก นักลงทุนจึงพากันชะลอการซื้อขายหุ้น เพื่อรอผลการไต่สวนของศาล

การปรับคณะรัฐมนตรีที่ใกล้จะเกิดขึ้น แทบไม่มีผลใด ๆ กับตลาดหุ้นมากนัก เพราะนักลงทุนไม่ได้ตั้งความคาดหวังกับรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร 2 แต่พุ่งความสนใจไปที่คดีป่วยทิพย์ของนายทักษิณ

เพราะผลของคดี อาจนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ ซึ่งสร้างความหวังใหม่ให้นักลงทุนมากกว่า

สัปดาห์หน้า ภาวะตลาดหุ้นอาจกระเตื้องขึ้น เมื่อคดีชั้น 14 มีความชัดเจนมากขึ้น โดยนักลงทุนคลายความกดดันลง แต่ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่หุ้นจะกลับสู่ขาขึ้นเต็มตัว เพราะปัจจัยลบเดิมยังครอบงำตลาดหุ้นไทยอยู่ต่อไป

ปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสงครามการค้า จากการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ อาจมีสัญญาณที่ดี หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีน แต่ปัจจัยภายใน ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำซบเซาขนาดหนัก และสถานการณ์การเมือง ไม่มีสัญญาณที่ดีขึ้น

หลายปีที่หุ้นไทยดิ่งเหวลง สวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งทะยานขึ้น จนสร้างจุดสูงสุดใหม่ ๆ เกิดจากปัจจัยภายในเฉพาะตัว ซึ่งกลายเป็น “ตัวถ่วง” และทำให้ตลาดหุ้นไทยขาดเสน่ห์อย่างร้ายแรง

นักลงทุนต่างชาติ สลัดหุ้นไทยออกจากเส้นทางการลงทุน และทยอยเทขายหุ้นทิ้ง โดยไม่มีสัญญาณการกลับมา แม้ดัชนีฯหุ้นจะลงไปแตะจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 ปี จนราคาหุ้นแสนถูกเพียงใดก็ตาม

นักลงทุนในประเทศตกอยู่ในภาวะสิ้นหวัง ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและตลาดหุ้น จนต้องหนีไปลงทุนในต่างประเทศ

ทุกคนกำลังเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และคดีป่วยทิพย์ของนายทักษิณ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ซึ่งนับจากเข้ามาเป็นผู้นำประเทศ ยังไม่มีมาตรการใดที่กระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้น และยังไม่เคยมีมาตรการที่เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาได้

ตลอดสัปดาห์นี้ นักลงทุนอาจอึดอัดกับตลาดหุ้นที่เงียบเชียบราวป่าช้า แต่คาดหวังกันว่า สัปดาห์น้าสถานการณ์การลงทุนจะดีขึ้น ทุกคนจึงเฝ้ารอลุ้นการไต่สวนคดีป่วยทิพย์ในวันศุกร์สุดสัปดาห์เท่านั้น