หุ้นทั้งกระดาน ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาด MAI ส่วนใหญ่เงียบสงบ ตามภาวะตลาดที่ซบเซา แต่หุ้นในตลาด MAI หลายบริษัท กลับคึกคัก ราคาพุ่งทะยานอย่างร้อนแรงผิดวิสัยของตัวหุ้น จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องงัดมาตรการกำกับการซื้อขาย ซึ่งยังไม่อาจสยบหุ้นร้อนบางตัวได้
มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น เพื่อดับความร้อนแรงหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติจากสภาพตลาด ตลาดหลักทรัพย์ห่างเหินจากการบังคับใช้มาพักใหญ่แล้ว เพราะหุ้นตัวเล็กตัวร้าย หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม ล้มหายตายจากตามภาวะตลาดหุ้นที่ตกต่ำ
นักลงทุนขาใหญ่ เจ้ามือหรือเจ้าของหุ้น ต้องหยุดกิจกรรมการปั่นราคาหุ้น เพราะประเมินแล้วว่า ภาวะตลาดไม่เอื้อต่อการลากราคา เพื่อล่อแมลงเม่าให้ตามแห่เข้ามาเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนรายย่อย ส่วนใหญ่เข็ดขยาดกับหุ้นปั่น เพราะเจ็บหนักตาม ๆ กันมาแล้ว
ยุคของหุ้นปั่น ยุคของการเก็งกำไรหุ้นตัวเล็กที่มีแต่การปล่อยข่าว สร้างข่าว และสร้างราคา โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับน่าจะปิดฉากลงไปแล้ว โดยเฉพาะหุ้นในตลาด MAI
แต่ช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา มีหุ้นในตลาด MAI หลายตัว ถูกจุดพลุลากราคาขึ้น ราคาพุ่งทะยานอย่างหวือหวือหวา ทุ้งที่ไม่มีปัจจัยสนับสนุน จนตลาดหลักทรัพย์ ต้องปัดฝุ่นมาตรการกำกับการซื้อขายขึ้นมาใช้อีกครั้ง
หุ้นบริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 ถูกประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเป็นตัวแรก โดยประกาศใช้มาตรการขั้นที่ 1 กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด หรือบัญชีแคชบาลานซ์ และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น หลังบริษัท ฯ ปฏิเสธข่าวลือ บริษัทญี่ปุ่นจะเข้ามาครอบงำกิจการหรือเทกโอเวอร์ และยืนยันว่า บริษัท ฯ ไม่มีพัฒนาการใด ๆ ที่มีผลต่อราคาหุ้น
หุ้น DV8 ทำท่าสงบลงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะมีการไบ่ราคาหุ้นมาใหม่ จนล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ราคาพุ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในรอบหลายปี โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายขึ้นไปสูงสุดที่ 5.45 บาท และอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.25 บาท
จากราคาปิดที่ 35 สตางค์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายวันละไม่กี่หมื่นบาท DV8 สร้างปาฎิหาริย์ ถูกลากขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท โดยภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.90 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1,400%
เช่นเดียวกับ DV8-W2 ซึ่งดีดตัวขึ้นจาก 4 สตางค์ ขึ้นมาที่ 3.94 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9,850%
ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ต้องสั่งขยายมาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 หุ้น DV8 ต่อไปอีก จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
เบื้องหลังความร้อนแรงของหุ้น DV8 ท้าทายอำนาจการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เกิดขึ้นเพียง 2 ประเด็นคือ การมีอินไซด์ในหุ้นตัวนี้ หรือมีคนที่อยู่เบื้องหลังการปั่นราคา ซึ่งในอนาคตอันใกล้ จะมีคำตอบในความร้อนแรงของหุ้นตัวนี้ว่า มีอินไซเดอร์หรือคนปั่นราคาหรือไม่
หุ้นในตลาด MAI อีกตัวที่ถูกมาตรการกำกับการซื้อขายคือ หุ้นบริษัท ทเวนตี้โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
หุ้น 24CS ถูกลากขึ้นมาในรูปแบบเดียวกับหุ้น DV8 เพียงแต่ไม่มีข่าวลือว่าใครจะเข้ามาเทกโอเวอร์เท่านั้น
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา หุ้น 24CS 91 สตางค์ แต่หลังจากนั้นพุ่งขึ้นติดต่อ 5 วันทำการ จนวันที่ 10 มิถุนายนปิดที่ 1.45 บาท มูลค่าซื้อขายกระโดดขึ้นไปเป็น 129.54 ล้านบาท จากที่เคยซื้อขายวันละระดับ 10 ล้านบาท
ผลประกอบการ 24CS ตกต่ำต่อเนื่อง นับจากนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 โดยปี2566 ขาดทุนสุทธิ 45.07 ล้านบาท ปี 2567 ขาดทุนพุ่งขึ้นเป็น 439.41 ล้านบาท แต่ไตรมาสแรกปี 2568 พลิกมามีกำไรสุทธิ 31.09 ล้านบาท
แต่ราคาหุ้นไม่ได้ตอบรับผลประกอบการไตรมาสแรกเท่าใดนัก ในช่วงที่ 24CS ประกาศงบการเงิน และเพิ่งจะร้อนแรงมาในช่วง 5 วันทำการ
การประกาศใช้มาตรการกำกับหุ้น DV8 และหุ้น 24CS เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า หุ้นตัวเล็กตัวร้าย กำลังถูกปลุกผีขึ้นมาอีกครั้ง
หุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เข้าข่ายปั่นเริ่มฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ นักลงทุนรายย่อย จึงพึงระวังตัวไว้ อย่าหลวมตัวตามแห่เข้าไปเก็งกำไรเด็ดขาด