xs
xsm
sm
md
lg

SETมองนักลงทุนคลายกังวล หลังจีน-สหรัฐระงับภาษี90 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยนักลงทุนคลายกังวล หลังสหรัฐฯ-จีน เห็นพ้องร่วมกันระงับการเก็บภาษีศุลกากรโต้กันเป็นเวลา 90 วัน ส่งผล เงินทุนเริ่มไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ขณะร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลชุดใหม่ของสหร้ฐ อาจมีผลกระทบต่อภาษีของนักลงทุนต่างชาติในอนาคต มองเศรษฐกิจไทยโต 3.1% ขณะดัชนีหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง







ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2568 มีพัฒนาการสำคัญด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน โดยสหรัฐฯ และจีนเห็นพ้องร่วมกันที่จะระงับการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ขณะเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่นำโดยพรรครีพับลิกัน ได้อนุมัติร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลชุดใหม่ หรือ “One Big Beautiful Bill” ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อภาษีของนักลงทุนต่างชาติในอนาคต

ในประเทศ GDP ไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัว 3.1% จากแรงหนุนของการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นก่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของการลงทุนภาครัฐ ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยรวมมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก ขนส่ง และโทรคมนาคม กว่าครึ่งของบจ. ยังรายงานกำไรที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากต้นทุนน้ำมันที่ลดลงและดอกเบี้ยขาลงจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังเผชิญแรงกดดัน โดย SET Index ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ปิดที่ 1,149.18 จุด ลดลง 4.0% จากเดือนก่อนหน้า และปรับตัวลงถึง 17.9% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งถือว่าต่ำกว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค แม้กลุ่มอุตสาหกรรมบางกลุ่มอย่างการเงิน อาหาร อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีจะยังทำผลงานได้ดีกว่า SET โดยรวม


ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันของ SET และ mai อยู่ที่ 43,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากเดือนก่อนหน้า โดยผู้ลงทุนต่างชาติยังคงเป็นผู้ขายสุทธิ 16,182 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับการปรับพอร์ตตามดัชนี MSCI รอบเดือนพฤษภาคม สำหรับอัตราเงินปันผลตอบแทนตลาด ณ สิ้นเดือน พ.ค. อยู่ที่ 4.28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชียที่ 3.34%

ขณะที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เผชิญภาวะชะลอตัว โดยปริมาณซื้อขายเฉลี่ยรายวันในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 356,872 สัญญา ลดลง 17.7% จากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่ม Single Stock Futures และ SET50 Index Futures แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว แต่ตลาดหุ้นยังเผชิญแรงกดดันทั้งจากปัจจัยภายในและต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงและเน้นผลตอบแทนจากเงินปันผลที่มั่นคงในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น