xs
xsm
sm
md
lg

"สิงคโปร์ไม่ใช่ 'สวรรค์คริปโต' อีกแล้ว? นักลงทุนแห่หาที่พักใหม่ หลังกฎหมายเข้มข้น"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดคริปโตเอเชียสั่นสะเทือน! สิงคโปร์เริ่มแสดงท่าที "ไม่เป็นมิตร" กับนักลงทุนดิจิทัล หลัง MAS ปล่อยกฎหมายใหม่เข้มงวด จนบริษัทคริปโตรายใหญ่เริ่มมองหาฐานที่มั่นอื่นในภูมิภาค ผู้เชี่ยวชาญชี้ "ดูไบ-ฮ่องกง" อาจได้ประโยชน์เต็มๆ แต่ความเสี่ยงก็ไม่น้อย เพราะที่ไหนก็ตาม "เงินร้อน" ไหลเข้า หน่วยงานกำกับดูแล ก็ตามมาจับตาไม่เลิก!

สถานการณ์ในสิงคโปร์กำลังทำให้หลายคนต้องคิดใหม่! หลังจากที่เคยถูกมองว่าเป็น "สวรรค์ของนักลงทุนคริปโต" เนื่องจากนโยบายที่เปิดกว้างและโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่ล่าสุดแบงก์ชาติสิงคโปร์หรือ MAS (Monetary Authority of Singapore) เริ่มออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ จนหลายบริษัทต้องเริ่มมองหาที่ตั้งใหม่ในภูมิภาคเอเชีย

กำหนดเส้นตาย MAS ล่าสุดคือจุดสิ้นสุดของบริษัทคริปโตที่ใช้กฎการออกใบอนุญาตของสิงคโปร์ในการให้บริการลูกค้าต่างประเทศ ที่มา: YK Pek
MAS ลงมือหนัก! คริปโตธุรกิจต้องปรับตัวหรือย้ายออก

ห้ามโฆษณาแบบเหวี่ยงแห : กฎใหม่ของ MAS ห้ามไม่ให้บริษัทคริปโตโฆษณาในที่สาธารณะหรือใช้เซลส์พีชแบบ "ลงทุนแล้วรวย" ซึ่งกระทบตรงๆ กับการตลาดของหลายแพลตฟอร์ม

KYC ยิ่งกว่าธนาคาร : ต้องยืนยันตัวตนลูกค้าแบบ Real-Time แม้แต่สำหรับการเทรดขนาดเล็ก ทำให้กระบวนการซื้อขายล่าช้า

จำกัดบริการสำหรับนักลงทุนรายย่อย : บางแพลตฟอร์มถูกสั่งห้ามไม่ให้ให้บริการกับผู้ที่มีทรัพย์สินน้อยกว่า 200,000 ดอลลาร์สิงคโปร์

นักวิเคราะห์จาก Chainalysis ให้ความเห็นว่า "สิงคโปร์กำลังเดินตามรอยสหรัฐฯ ในเรื่องการควบคุมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ความได้เปรียบทางการแข่งขันหายไป"

บริษัทบางแห่งอาจกำลังพิจารณาฮ่องกง ซึ่งกำลังกลายเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดิจิทัลในช่วงหลัง ที่มา: Johnny Ng
ดูไบ-ฮ่องกง-สิงคโปร์ เปิดเกมชิงตำแหน่ง "เมืองหลวงคริปโต" ใหม่

ขณะที่สิงคโปร์เริ่มเข้มงวด หลายบริษัทกำลังมองหาฐานที่มั่นใหม่ โดยมี 2 เมืองที่มาแรงสุดในตอนนี้

1.ดูไบ : ด้วยกฎหมายที่ชัดเจนและนโยบายส่งเสริมคริปโตโดยเฉพาะ (เช่น VARA License) ทำให้ดูไบกลายเป็นจุดหมายใหม่ของบริษัทใหญ่ๆ เช่น Binance และ Bybit

2.ฮ่องกง :แม้จะอยู่ใต้เงาจีน แต่ฮ่องกงพยายามดึงดูดนักลงทุนด้วยการอนุญาตให้เทรดคริปโตแบบถูกกฎหมายสำหรับประชาชนทั่วไป

แต่ทั้งสองที่ก็มีความเสี่ยงของตัวเองเพิ่มมากขึ้น ได้แก่

ดูไบ : แม้จะเปิดกว้าง แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองในระยะยาว

ฮ่องกง : ต้องจับตาดูนโยบายจากปักกิ่ง ที่อาจเปลี่ยนทิศทางได้ทุกเมื่อ

การประกาศหาที่ปรึกษาด้านใบอนุญาตของ Bybit แหล่งที่มา: Bybit/LinkedIn
นักลงทุนรายย่อยเจออะไรบ้าง?

สำหรับนักลงทุนเล็กๆ ที่เคยใช้สิงคโปร์เป็นฐาน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างผลกระทบไม่น้อย เช่น

ความสะดวกลดลง :การฝาก-ถอนเงินทำได้ยากขึ้น เพราะธนาคารในสิงคโปร์เริ่มตรวจสอบการโอนเงินเกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างเข้มงวด

ภาษีอาจเพิ่ม : มีข่าวลือว่ารัฐบาลสิงคโปร์อาจเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนคริปโตในอนาคต

ทางเลือกน้อยลง : บางแพลตฟอร์มเริ่มจำกัดบริการสำหรับผู้ใช้ในสิงคโปร์

ความพยายามในการเป็นศูนย์กลางคริปโตแห่งใหม่ของฮ่องกง ด้วยขึ้นทะเบียนออกใบอนุญาติผู้ประกอบการคริปโต แหล่งที่มา: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์สะท้อนให้เห็นว่า "ไม่มีสวรรค์คริปโตที่แท้จริง" ทุกที่ที่เปิดกว้างในตอนแรก อาจเปลี่ยนนโยบายได้เมื่อตลาดโตเกินควบคุม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า นักลงทุนและบริษัทควร "กระจายความเสี่ยง" ไม่ควรพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป

ขณะที่ด้านนักวิเคราะห์ชื่อดัง "Crypto Monk" โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า "สิงคโปร์อาจแค่ต้องการลดความร้อนแรงของตลาด...แต่ผลที่ได้คือเงินไหลออกสู่ที่อื่น!"