บิทคอยน์ เดือดสุดขีด! นักวิเคราะห์ฟันธง ราคาอาจทะยานแตะ 150,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี 2025 หลัง ETF ดูดเงินมหาศาลและนโยบายทรัมป์หนุนคริปโตเต็มสูบ แต่ระวัง! ความผันผวนและภาวะเงินเฟ้ออาจฉุดฝันให้สะดุด วงการคริปโตพร้อมพุ่ง หรือแค่ลมปาก? มาดูกัน!
บิทคอยน์มีลุ้น 150,000 ดอลลาร์ สิ้นปีนี้
วงการคริปโตร้อนแรงไม่เลิกหลังราคาบิทคอยน์ Bitcoin (BTC) ทะยานเกิน 100,000 ดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์และกูรูคริปโตชื่อดังต่างออกมาฟันธงว่า BTC มีโอกาสพุ่งถึง 150,000 ดอลลาร์ ก่อนสิ้นปี 2568 ด้วยแรงหนุนจากกองทุน ETF ที่ดูดเงินเข้ามหาศาลและนโยบายที่เป็นมิตรจากรัฐบาลชุดใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์
ETF และนโยบายทรัมป์ ตัวจุดพลุราคา
หนึ่งในแรงขับสำคัญที่ทำให้บิทคอยน์ มีลุ้นถึง 150,000 ดอลลาร์คือกระแสเงินไหลเข้าจาก Bitcoin Spot ETFs ซึ่งกำลังกลายเป็นเครื่องดูดเงินจากนักลงทุนสถาบันทั่วโลก ข้อมูลจาก Bloomberg เผยว่า ETF เหล่านี้มีเงินไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 500 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปี 2568 สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในคริปโตเคอร์เรนซี
ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเพิ่งเริ่มวาระที่สอง กลายเป็นลมใต้ปีกให้บิทคอยน์ โดยเฉพาะการผลักดันให้สหรัฐฯ ถือบิทคอยน์ เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองยุทธศาสตร์ (Strategic Bitcoin Reserve) และการผ่อนคลายกฎระเบียบของ SEC ที่เคยเป็นกำแพงขวางวงการคริปโต ทำให้นักลงทุนมองว่า นี่คือช่วงเวลาทองของ BTC
จอห์น สมิธ นักวิเคราะห์จาก Fundstrat Global Advisors วิเคราะห์ว่า “ถ้าทรัมป์เดินหน้าโยกเงินลงทุนจากกองทุนของรัฐไปยัง Bitcoin และ ETF ยังคงดูดเงินต่อเนื่อง 150,000 ดอลลาร์ไม่ใช่แค่ฝัน แต่เป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ภายในสิ้นปีนี้”
กลไกตลาดกระทิง อุปทานจำกัด ความต้องการพุ่ง
บิทคอยน์มีจุดเด่นที่ทำให้มันเป็น “ทองคำดิจิทัล” คือ อุปทานจำกัด ที่ 21 ล้านเหรียญ โดยปัจจุบันเหลือขุดได้เพียง 2.1 ล้านเหรียญเท่านั้น เมื่อรวมกับการลดลงครึ่งหนึ่งของรางวัลการขุด (Bitcoin Halving) ครั้งล่าสุดในปี 2567 ที่ทำให้อุปทานใหม่ลดลง ความต้องการที่พุ่งสูงจากนักลงทุนสถาบันจึงยิ่งผลักดันราคาให้พุ่งกระฉูด
ราอูล พาล ซีอีโอของ Real Vision Group ชี้ว่า “เรากำลังอยู่ในช่วง price discovery ของบิทคอยน์ ที่ราคาจะพุ่งไปสู่จุดสูงสุดใหม่ ๆ เมื่อความต้องการเกินอุปทาน ตอนนี้ ETF และบริษัทใหญ่ ๆ กำลังกวาดซื้อ BTC จนแทบไม่เหลือในตลาด นี่คือสูตรสำเร็จของขาขึ้น”
อย่างไรก็ตามถึงแม้ทุกอย่างจะดูสวยงาม แต่การวิ่งไปถึง 150,000 ดอลลาร์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นักวิเคราะห์เตือนว่า ความผันผวน ยังคงเป็นจุดอ่อนของบิทคอยน์ โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับปัจจัย macroeconomic เช่น ภาวะเงินเฟ้อ และ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หาก Fed เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจพุ่งจากนโยบายภาษีของทรัมป์ บิทคอยน์อาจเจอแรงเทขายหนัก
แคทรีน วูด จาก ARK Invest เตือนว่า “ถึงบิทคอยน์จะมีศักยภาพถึง 150,000 ดอลลาร์ แต่ถ้า Fed คุมเข้มเกินไป หรือนโยบายทรัมป์ทำให้เงินเฟ้อพุ่ง สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตอาจถูกกระทบหนัก นักลงทุนต้องระวังความผันผวนระยะสั้น”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก CoinGecko ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ระบุว่าบิทคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 108,000 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 110,000 ดอลลาร์ หากฝ่าได้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาอาจพุ่งต่อไปที่ 120,000-130,000 ดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม และมีโอกาสแตะ 150,000 ดอลลาร์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 โดยเฉพาะหาก ETF ยังคงดูดเงินต่อเนื่องและนโยบายทรัมป์ยังเป็นมิตร
มุมมองกูรู ราคา 150K ยั่งยืนหรือแค่ฟองสบู่?
ทอม ลี จาก Fundstrat มองว่า “บิทคอยน์มีโอกาสถึง 150,000 ดอลลาร์ในปีนี้ เพราะ ETF และนโยบายทรัมป์กำลังสร้างโมเมนตัมที่หยุดไม่อยู่ แต่ต้องระวังการปรับฐานหาก Fed คุมเข้ม”
ขณะที่ แอนโธนี ปอมพลิอาโน นักลงทุนคริปโตชื่อดัง กล่าวว่า “BTC คือทองคำแห่งศตวรรษที่ 21 อุปทานจำกัดและความต้องการที่พุ่งสูงทำให้ 150,000 ดอลลาร์เป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผล”
ทั้งนี้ บิทคอยน์ ซึ่งอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ ด้วยแรงหนุนจาก ETF นโยบายทรัมป์ และอุปทานที่จำกัด เป้าหมาย 150,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี 2568 และดูเหมือนจะอยู่ในระยะเอื้อมถึง แต่ในโลกคริปโตที่เต็มไปด้วยความผันผวนและเซอร์ไพรส์ นักลงทุนจึงต้องเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
