หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กำลังปรับตัวสู่ช่วงขาลงเต็มตัว โดยแรงขาย น่าจะไหลมาจากบรรดากองทุนที่อิงผลตอบแทนจากดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือ PASSIVE FUND ซึ่งกำลังปรับลดน้ำหนักการลงทุน ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ลดน้ำหนักหุ้น DELTA เหลือ 10% ในการคำนวณดัชนี ฯ
DELTA เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ โดยเคยมีสัดส่วนการคำนวณดัชนี ฯประมาณ 13% ของดัชนี ฯ ปัจจุบันมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดลดเหลือ 1.19 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 8.46% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคป ซึ่งมีจำนวน 14.06 ล้านล้านบาท
การมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ดัชนี ฯ 50 หรือดัชนี ฯ 100 จนบางครั้ง หุ้น DELTA เพียงตัวเดียว ทำให้ภาพตลาดหุ้นถูกบิดเบือนจากสภาพความเคลื่อนไหวที่แท้จริง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงประกาศใช้เกณฑ์คำนวณดัชนีฯใหม่ หรื อCAPPED WEIGHT 10% โดยกำหนดให้หุ้นทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีน้ำหนักในการคำนวณดัชนี ฯ ไม่เกิน 10% ซึ่งรวมทั้งหุ้น DELTA และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ราคาหุ้น DELTA ซึ่งเคยถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 173.50 บาท ค่อย ๆ ปรับตัวลง เพราะนอกจากถูกปรับลดน้ำหนักในการคำนวณดัชนี ฯ เหลือไม่เกิน 10% แล้ว ยังมีปัจจัยลบจากการประกาศใช้ GLOBAL MINIMUM TAX หรือการเก็บภาษีขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้ตั้งแต่ประมาณ 75,000 ล้านบาทต่อปี
และยังถูกผลกระทบจากการประกาศเก็บภาษีสินค้าน้ำเข้าสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 36%
นอกจากนั้น นักลงทุนยังมีความกังวล ผลกระทบจากบริษัท DELTA ของไต้หวัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DELTA ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ประกาศออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 525 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุ 5 ปี โดยกำหนดให้นำหุ้นกู้แปลงสภาพ เมื่อครบอายุ สามารถนำมาแปลงสภาพเป็นหุ้น DELTA ได้ ในราคาแปลงสภาพประมาณ 157.60 บาทต่อหุ้น
แม้ราคาแปลงสภาพจะสูงกว่าราคาหุ่นบนกระดาน แต่ใน 5 ปีข้างหน้า ราคาหุ้น DELTA จะถูกกดดันจากหุ้นกู้ที่รอการแปลงสภาพ ซึ่งมีจำนวนหลายสิบล้านหุ้นที่บริษัทไต้หวันเตรียมสำรองไว้รอการแปลงสภาพ
มรสุมข่าวร้ายที่กระหน่ำใส่เป็นระลอก ทำให้หุ้น DELTA ถูกทุบร่วงทำราคาต่ำสุดที่ 51.25บาท ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 8 เมษายนที่ ก่อนจะเด้งขึ้นมาใหม่ และขึ้นไปสูงสุดในรอบนี้ที่ราคา 116 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด เคยประเมินว่า ราคาหุ้น DELTA จะปรับตัวลงมาที่ระดับ 80 บาท จากการถูกปรับน้ำหนักการคำนวณดัชนี ฯ แต่ล่าสุดวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา หุ้น DELTA ปิดที่ 95.50 บาท และมีน้ำหนักคำนวณดัชนีเหลือ 8.46% ต่ำกว่าเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 10%
หุ้น DELTA ที่ไหลร่วงลงมาต่อเนื่อง แรงขายหลัก น่าจะเกิดจากกองทุนที่ปรับน้ำหนักพอร์ตการลงทุน ตามการปรับน้ำหนักหุ้น DELTA ในการคำนวณดัชนี ฯ
แต่มาร์เก็ตแคป DELTA ลดลงมาแล้ว จนน้ำหนักการคำนวณดัชนี ฯ ต่ำกว่า 10% ดังนั้น แรงกดดันในการขายหุ้นของบรรดากองทุน PASSIVE FUND น่าจะลดลง
เพียงแต่ราคาหุ้น DELTA เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน อาจยังสูงอยู่ โดยมีค่า พี/อี เรโช 59 เท่า และไม่อาจคาดหมายว่า ผลกระทบจากภาษีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อแรงขาย DELTA ยังหนาแน่น สะท้อนการต่อสู้ระหว่างนักลงทุนที่ต้องการทิ้งและนักลงทุนที่ยังอยากช้อนเก็บ
DELTA ราคานี้ ขึ้นอยู่ที่มุมมองแต่ละคนแล้วว่า น่าขายทิ้งหรือน่าซื้อไว้เก็งกำไร
