ก.ล.ต. ไทยจับมือ IOSCO ทั่วโลก ปราบมิจฉาชีพออนไลน์! วางเกณฑ์แพลตฟอร์มดิจิทัลหยุดยั้งขบวนการหลอกลงทุน ที่กำลังทำลายล้างเงินในกระเป๋าประชาชน เผยสถิติความเสียหายพุ่งสูงสุด ชี้ชัดถึงเวลาที่ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียต้องรับผิดชอบ!
สถานการณ์ภัยหลอกลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์กำลังเป็นมะเร็งร้ายกัดกินทรัพย์สินของประชาชนทั่วโลก สร้างความกังวลและความเสียหายที่ขยายวงอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่คดีหลอกลงทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์มีมูลค่าความเสียหายสูงลิ่วแซงหน้าอาชญากรรมออนไลน์ประเภทอื่น ๆ อย่างขาดลอย
ล่าสุด องค์การกำกับดูแลตลาดทุนระหว่างประเทศ (IOSCO) ซึ่งเป็นองค์กรผู้กำหนดมาตรฐานสากลด้านการกำกับดูแลหลักทรัพย์ ได้ออกโรงส่งสัญญาณชัดเจนถึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลทั่วโลก โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดีย ให้หันมาจับมือกับหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของแต่ละประเทศอย่างเต็มกำลัง เพื่อร่วมกันป้องกันและหยุดยั้งภัยหลอกลงทุนที่ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นช่องทางในการเผยแพร่เนื้อหาหลอกลวงที่ซับซ้อนและแพร่กระจายในวงกว้าง
แถลงการณ์ของ IOSCO ไม่ได้แค่เป็นการร้องขอ แต่ยังส่งเสริมให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมีมาตรการเชิงรุก อาทิ การระงับเนื้อหาหลอกลวงบนแพลตฟอร์มทันทีที่ตรวจพบ พร้อมทั้งผลักดันให้ใช้ประโยชน์จากระบบ IOSCO International Securities and Commodities Alerts Network (I-SCAN) ซึ่งเป็นคลังข้อมูลพฤติการณ์น่าสงสัย บริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาต และการกระทำอันเข้าข่ายหลอกลวงลงทุนจากประเทศสมาชิกทั่วโลก เพื่อแจ้งเตือนและบล็อกการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ย้ำถึงความมุ่งมั่นของสำนักงานฯ ในการปกป้องผู้ลงทุนจากภัยออนไลน์ โดยเฉพาะภัยที่มากับแพลตฟอร์มดิจิทัล และยืนยันว่า ก.ล.ต. ในฐานะสมาชิก IOSCO จะเดินหน้าสนับสนุนแนวทางนี้อย่างเต็มที่
“การออกแถลงการณ์ของ IOSCO ในครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันร่วมกันของ ก.ล.ต. ทั่วโลก ที่จะกระตุ้นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มให้เข้ามาผนึกกำลังกับหน่วยงานกำกับดูแลในแต่ละประเทศ เพื่อต่อสู้กับภัยการหลอกลงทุนออนไลน์ ลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน” นางพรอนงค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในหลากหลายมิติและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด รวมถึงได้รับความร่วมมือที่ดีจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มในประเทศ และพร้อมเดินหน้าความร่วมมือนี้อย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ปราศจากภัยหลอกลงทุนบนโลกออนไลน์ให้แก่ประชาชนและผู้ลงทุน
แนะประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อ! เช็กก่อนเชื่อ ปรึกษาก่อนลงทุน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ระบุว่าหากประชาชนพบเห็นการชักชวนลงทุนที่น่าสงสัย หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” ของ ก.ล.ต. ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1207 กด 22 หรือแจ้งข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.sec.or.th/scamalert เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุนใด ๆ ควรตรวจสอบข้อมูลผู้ให้บริการและผู้ที่ได้รับอนุญาตภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ด้วยตนเองได้ที่ สำนักงาน ก.ล.ต. หรือติดตั้งแอปพลิเคชัน "SEC Check First เช็กก่อนเชื่อ" เพื่อเป็นเกราะป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล