หลังจากหยุดยาว 4 วันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดการซื้อขายใหม่เมื่อวันพุธที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา นักลงทุนต่างตั้งความหวังว่า ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่เขียวขจี แต่ดัชนี ฯ กลับปักหัวลงต่อ และมีแนวโน้มถดถอยสู่แนวรับ 1100 จุด
การถูกลดน้ำหนักจากดัชนี MSCI จาก 1.28% เหลือ 1.2% และคาดวา จะมีเงินทุนไหลออกเกือบ 4 หมื่นล้านบาทนั้น ผลกระทบน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว โดยนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ พากันเทขายหุ้นที่ถูกถอดออกจากการคำนวณดัชนี ฯ MSCI จนมูลค่าซื้อขายหุ้นพองโตกว่า 7 หมื่นล้านบาท และดัชนี ฯ ดิ่งหลุด 1150 จุด
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันพุธที่ผ่านมา น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ หรือกระเตื้องขึ้น ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้น แต่ทันทีที่เปิดการซื้อขาย หุ้นกลับทรุดลงต่อ ซึ่งไม่ได้เกิดจากปัจจัย MSCI ลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทย
แต่เกิดจากปัจจัยลบเดิม ๆ คือ ความวิตกในผลกระทบสงครามการค้า สงครามในตะวันออกกลาง สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ระอุขึ้น จากปัญหาการรุกล้ำอธิปไตยของไทยบริเวณชายแดนเขมรที่ช่องบก
ปัจจัยการเมืองส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากขึ้น โดยนักลงทุนไม่มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาล ไม่มั่นใจว่า รัฐบาล "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" จะอยู่ถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ เพราะนอกจากปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ยังถูกโจมตีในความล้มเหลวการบริหารประเทศ จนคะแนนนิยมตกต่ำอย่างหนัก
นักลงทุนต่างสิ้นหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการเรียกความเชื่อมั่น และกำลังเฝ้ารอคอยการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
เพราะมีความเห็นตรงกันว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปไม่ไหวแล้ว และยิ่งอยู่ต่อไป ตลาดหุ้นยิ่งฟุบหนัก โดยไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว
แต่ก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตลาดหุ้นคงซบเซาต่อไป เพราะถูกมรสุมข่าวร้ายรอบด้านกระหน่ำเข้าใส่ ทั้งจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยทางการเมือง
นักลงทุนต่างประเทศ คงเทขายหุ้นต่อไป เพราะมองไม่เห็นโอกาสที่จะเก็บเกี่ยวผลกำไร แต่มองเห็นแต่ความเสี่ยง และแนวโน้มความตกต่ำของราคาหุ้น ซึ่งหากไม่มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามา หุ้นก็หมดโอกาสฟื้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายคนประเมินไว้ก่อนหน้าแล้ว ดัชนี ฯ หุ้นจะปรับฐานลงสู่ระดับ 1100 จุดอีกครั้ง และสิ่งที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินไว้ กำลังเกิดขึ้นจริง
หุ้นกลับสู่ช่วงขาลงเต็มตัว เพราะถูกข่าวร้ายรุมสกรัม นักลงทุนในประเทศก็หมดแรงซื้อแล้ว แม้จะมีความรู้สึกว่า หุ้นลงมาถูกเกินควรก็ตาม
นักลงทุนคงได้แต่เฝ้าดู ตลาดหุ้นซึมด้วยความรู้สึกสุดเศร้า เพราะไม่เห็นความหวังใด ๆ ที่หุ้นจะดีดตัวกลับ ไม่มีสัญญาณใด ๆ บ่งชี้ว่า หุ้นจะกลับมาสู่ความสดใส แม้ตลาดหุ่นโลกในบางช่วงจะกระเตื้องขึ้น เปิดโอกาสให้นักลงทุนขายทำกำไรกันบ้างก็ตาม
ดัชนี ฯ วันพุธที่ผ่านมา ปิดลงที่ระดับ 1,132.02 จุดสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในขาลงรอบนี้ และคงลงต่อไปจนแตะระดับ 1100 จุด
เพียงแต่ 1100 จุด จะเอาอยู่หรือไม่เท่านั้น