xs
xsm
sm
md
lg

พิษรัสเซีย-ยูเครนลามปั่นป่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ กดบิทคอยน์ร่วงแรง! ต่ำกว่า $104,000

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อราคาบิทคอยน์ (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัลหัวแถว ได้เผชิญกับภาวะราคาดิ่งเหวอย่างรุนแรง จนหลุดระดับสำคัญที่ 104,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือราว 3.7 ล้านบาทต่อเหรียญ) ซึ่งเป็นผลพวงโดยตรงจากความร้อนระอุของวิกฤตการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงได้ง่ายๆ บรรยากาศความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตเท่านั้น หากแต่ยังได้ลามไปถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯ สร้างความผันผวนและเขย่าขวัญนักลงทุนทั่วโลก

ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้กลายเป็นชนวนสำคัญที่จุดประกายความผันผวนระลอกใหม่ในตลาดการเงินทั่วโลก ทำให้บรรดานักเทรดและนักลงทุนต่างต้อง "ตั้งการ์ดสูง" และ "จับตาดูสถานการณ์อย่างไม่กะพริบตา" เนื่องจากความไม่แน่นอนของทิศทางตลาดนั้นยากจะคาดเดาได้ราวกับ "งมเข็มในมหาสมุทร"

กราฟ BTC/USD 1 ชั่วโมง ที่มา: Cointelegraph/TradingView
อย่างไรก็ตาม ราคาบิทคอยน์ได้เริ่มต้นเดือนมิถุนายนด้วยความไม่แน่นอนที่ปกคลุมอยู่หนาแน่น ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปี 2567 ราคาบิทคอยน์จะเคยพุ่งทะยานไปใกล้จุดสูงสุดตลอดกาล (All-Time Highs) ของมันมาแล้วก็ตาม แต่เมื่อสถานการณ์ความตึงเครียดในยุโรปทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันได้ และแสดงปฏิกิริยาตอบรับด้วยการปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด

กราฟ S&P 500 1 ชั่วโมง ที่มา: Cointelegraph/TradingView
อย่างไรก็ตาม นักเทรดบางกลุ่มกลับแสดงท่าทีที่น่าสนใจ พวกเขาดูเหมือนจะ "ไม่สะทกสะท้าน" ต่อความวิตกกังวลที่ปกคลุมตลาด แม้ว่าราคา BTC/USD จะร่วงลงไปถึง 8% จากสถิติสูงสุดล่าสุดที่ 112,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระยะยาวของนักลงทุนบางกลุ่มต่อสินทรัพย์ดิจิทัลนี้

กราฟ 1 สัปดาห์ของ BTC/USD ที่มา: Moustache/X
จากการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์หลายสำนัก พบว่าขณะนี้ตลาดกำลัง "ตีราคา" ความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนออกไปจากสมการการลงทุนแล้ว นั่นหมายความว่านักลงทุนไม่ได้คาดหวังว่าความขัดแย้งจะยุติลงในเร็ววัน ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์และราคาของสินทรัพย์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงที่ว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อออกไป ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์บางรายกลับมองเห็นโอกาสท่ามกลางวิกฤต โดยเสนอแนะว่าบิทคอยน์อาจมีศักยภาพในการทำผลงานได้ "เหนือความคาดหมาย" หรือ "ฉายแสงได้โดดเด่น" กว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น หากตลาดหุ้นสามารถค้นพบแรงกระตุ้นขาขึ้นครั้งใหม่ และกลับมา "ผงาด" ขึ้นได้อีกครั้ง

แผนภูมิสวอป BTC/USDT 1 วัน ที่มา: Daan Crypto Trades/X
ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างคาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์จะยังคงอยู่ในกรอบที่ค่อนข้าง "ซบเซา" หรือ "อยู่ในภาวะตลาดหมี" โดยคาดว่าราคาจะซื้อขายอยู่ในช่วง 100,000 – 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหมือน "ติดกับ" อยู่ในกรอบนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง ก่อนที่จะมีปัจจัยสำคัญใหม่ ๆ เข้ามาขับเคลื่อนให้ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ