xs
xsm
sm
md
lg

ปากีสถานพลิกเกม! ตั้ง “คลังสำรองบิทคอยน์” ในระดับรัฐบาล เปลี่ยนจุดยืนจากห้ามเป็นเข้าร่วม หวังสู่ฮับคริปโตเอเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ปากีสถาน" จากประเทศที่เคยปิดประตูใส่คริปโต สู่ผู้ประกาศตั้งคลังสำรองบิทคอยน์แห่งชาติจากแรงบันดาลใจในนโยบายหาเสียงของทรัมป์ พร้อมดึงที่ปรึกษาระดับโลกเข้าร่วม เร่งตั้งหน่วยงานกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ หวังขึ้นแท่นศูนย์กลางคริปโตแห่งเอเชีย

ปากีสถานเดินหน้าท้าทายกระแสโลกคริปโต ประกาศตั้ง “Bitcoin Strategic Reserve” ภายใต้การนำของรัฐบาลอย่างเป็นทางการ พลิกจากประเทศที่เคยยืนกราน “ไม่เอาคริปโต” มาเป็นหนึ่งในชาติที่วางยุทธศาสตร์เก็บบิทคอยน์ เป็นสินทรัพย์สำรองระดับชาติ ด้านหัวหน้าสภาคริปโตของปากีสถานยืนยันแรงบันดาลใจมาจากฝั่งสหรัฐฯ โดยได้รับสัญญาณบวกจากเวที Bitcoin 2025 ที่ลาสเวกัส พร้อมจัดเต็มนโยบายใหม่ ไล่ตั้งแต่การใช้ไฟฟ้าส่วนเกินขุดบิทคอยน์ ยันดึง นายฉางเผิงจ้าว (Changpeng Zhao หรือ CZ) ผู้ร่วมก่อตั้ง Binance ร่วมเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

รัฐบาลเปิดเกมรุกคริปโต ประกาศตั้งคลังสำรองบิทคอยน์ในระดับประเทศ

วันที่ 28 พฤษภาคม บิลัล บิน ซาคิบ หัวหน้าสภาคริปโตของปากีสถาน สร้างแรงสะเทือนวงการในงานประชุม Bitcoin 2025 ที่ลาสเวกัส ด้วยการประกาศว่า รัฐบาลปากีสถานได้ตัดสินใจจัดตั้งหน่วยสำรองบิทคอยน์เชิงยุทธศาสตร์ที่บริหารโดยรัฐบาลโดยตรง พร้อมขอบคุณสหรัฐฯ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้

ซาคิบกล่าวบนเวทีว่า “วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ รัฐบาลปากีสถานกำลังจัดตั้งคลังสำรองบิทคอยน์ หรือ Bitcoin Strategic Reserve และขอขอบคุณสหรัฐอเมริกาที่เป็นแบบอย่าง เราเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลคืออนาคตของระบบการเงินโลก”

นโยบายนี้นับเป็นการพลิกกลับจุดยืนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากเดิมที่ปากีสถานเคยมีท่าทีแข็งกร้าวและไม่ยอมรับคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะการออกกฎหมายห้ามการซื้อขายและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการ

สภาคริปโตแห่งชาติ กำเนิดกลไกผลักดันนโยบายระดับชาติ

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 รัฐบาลปากีสถานเริ่มหันมาสนใจบทบาทของคริปโตในฐานะกลไกเศรษฐกิจ โดยเสนอจัดตั้ง “สภาคริปโตแห่งชาติ” เพื่อออกแบบกรอบกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และเป็นตัวกลางดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

Bilal Bin Saqib ในงานประชุม Bitcoin 2025 ซึ่งประกาศเกี่ยวกับกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ของ Bitcoin ที่มา: Cointelegraph
สภาดังกล่าวเปิดแผนรุกคริปโตหลายด้าน ได้แก่

1.จัดตั้งศูนย์ข้อมูล (data center) เพื่อขุดบิตคอยน์ด้วยพลังงานส่วนเกิน
2.สะสม Bitcoin เพื่อเก็บไว้ในคลังของประเทศ
3.ผลักดันระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
4.ดึงที่ปรึกษาระดับโลกอย่างนายฉางเผิงจ้าว Changpeng Zhao (CZ) ผู้ร่วมก่อตั้ง Binance มาร่วมออกแบบแนวนโยบาย

ไฟเขียวพลังงาน 2,000 เมกะวัตต์ ขุด Bitcoin อย่างถูกกฎหมาย

ในเดือนพฤษภาคม สภาคริปโตฯ ได้รับอนุมัติให้ใช้พลังงานสำรองถึง 2,000 เมกะวัตต์ เพื่อขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลสำหรับขุด Bitcoin และประมวลผล AI แบบประสิทธิภาพสูง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลอนุญาตให้ใช้พลังงานระดับโรงไฟฟ้าขนาดกลางเพื่อสนับสนุนกิจกรรมคริปโตอย่างเป็นทางการ

จากแรงบันดาลใจสู่พันธมิตร DeFi ระดับโลก

หนึ่งในก้าวกระโดดสำคัญคือ การที่ World Liberty Financial (WLFI) ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) กับปากีสถานเมื่อวันที่ 27 เมษายน เพื่อช่วยออกแบบระบบโทเค็นที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์ในโลกจริง (real-world assets – RWAs) วางสถาปัตยกรรม DeFi และพัฒนาเครื่องมือการเงินดิจิทัลแบบทดลองใช้จริง

ตั้ง Digital Asset Authority คุมเข้ม–เปิดเกมรับผู้ประกอบการ

เพื่อรองรับการเติบโตแบบยั่งยืน ปลายเดือนพฤษภาคม กระทรวงการคลังปากีสถานได้ประกาศตั้ง “หน่วยงานกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ” หรือ Digital Asset Authority อย่างเป็นทางการ โดยมีหน้าที่หลักในการ

1.กำกับดูแลแพลตฟอร์มคริปโต
2.ออกใบอนุญาตให้ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล (VASP)
3.สร้างเกราะคุ้มครองผู้บริโภค
4.สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างปลอดภัย

ปากีสถานไม่ใช่แค่ "ตามโลก" แต่พร้อม "แซงโลก"

ทั้งนี้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของปากีสถานไม่ใช่แค่ปรับท่าที แต่เป็นการเปิดเกมรุกแบบครบเครื่อง ตั้งแต่การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การใช้นโยบายพลังงาน ไปจนถึงการเชื่อมพันธมิตรระดับโลกด้าน DeFi หากเดินหน้าได้จริง ปากีสถานอาจไม่ใช่เพียงแค่ประเทศกำลังพัฒนาอีกต่อไป แต่เป็น “เจ้าพ่อคริปโตแห่งเอเชียใต้” ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในปี 2025 นี้

ขณะเดียวกันหากรัฐบาลรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ได้ พร้อมส่งสัญญาณนโยบายชัดเจน ปากีสถานอาจกลายเป็นแรงดึงดูดใหม่ของเงินทุนคริปโตในระดับโลกได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า.