xs
xsm
sm
md
lg

อีลอน มัสก์ ลาออกจาก DOGE หลังโครงการลดงบฯ ส่อแววล้มเหลว-หุ้นเทสล่าเด้งรับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อีลอน มัสก์ ประกาศลาออกจากโครงการลดต้นทุน DOGE อย่างเป็นทางการ ชี้งานในรัฐบาล "หนักเกินคาด" ด้านนักวิจารณ์จับตา ผลงานจริงสวนทางคำโฆษณา ขณะโดนฟ้องละเมิดรัฐธรรมนูญ ร่วมมือรัฐบาลเลิกจ้างพนักงาน-ยกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรม หุ้น Tesla เด้งรับข่าวหลังมัสก์กลับไปโฟกัสบริษัทแม่เต็มตัว

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla และ X ประกาศลาออกจากบทบาท “ผู้เชี่ยวชาญพิเศษภาครัฐ” ในโครงการ Department of Government Efficiency (DOGE) อย่างเป็นทางการเมื่อ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X โดยยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า งานนี้ "ยากกว่าที่คิด" พร้อมกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับโอกาสในการ "ลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย"

มัสก์เปิดเผยว่าหนึ่งในสาเหตุหลักของการถอนตัวคือระบบราชการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งเขาระบุว่า “แย่กว่าที่คิดไว้มาก” พร้อมเผยกับ The Washington Post ว่าการพยายามปรับปรุงสถานการณ์ในวอชิงตัน ดี.ซี. คือ “การต่อสู้ที่ดุเดือด” ไม่ต่างจากการพุ่งชนกำแพง

ตำแหน่งในโครงการ DOGE ของมัสก์ เป็นไปตามกฎหมายที่อนุญาตให้พลเรือนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลพิเศษได้ไม่เกิน 130 วันต่อปี โดยบทบาทของเขามีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤษภาคม

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนลาออก มัสก์ยังออกโรงวิจารณ์พรรครีพับลิกัน โดยชี้ว่าแพ็คเกจลดหย่อนภาษีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะ และทำลายความพยายามของ DOGE ในการควบคุมงบประมาณ

จากฝันลดงบ 2 ล้านล้าน เหลือจริงแค่ 150,000 ล้าน

แม้ DOGE จะเคลมว่าโครงการช่วยประหยัดภาษีประชาชนได้แล้วกว่า 175,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งในเดือนมกราคม แต่หลายสำนักข่าวได้ออกมาโต้แย้งตัวเลขดังกล่าวว่า "เว่อร์เกินจริง" และ "ขาดความถูกต้อง" โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเป้าหมายแรกเริ่มที่มัสก์ประกาศไว้ว่า DOGE จะลดงบได้ถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนจะหั่นเป้าเหลือ 150,000 ล้านในภายหลัง

สำนักข่าว Reuters เผยว่า DOGE ได้ผลักดันการลดพนักงานภาครัฐเกือบ 12% หรือประมาณ 260,000 คน จากพนักงานทั้งหมด 2.3 ล้านคน ผ่านกลไกเลิกจ้าง ซื้อกิจการ และเสนอเกษียณก่อนกำหนด

ที่มา: อีลอน มัสก์
คดีฟ้องฟ้าผ่า – 14 รัฐลุกฮือ

ขณะที่มัสก์พยายามยก DOGE ให้เป็น "อนาคตของการบริหารราชการ" แต่ศาลรัฐบาลกลางเพิ่งไฟเขียวให้ดำเนินคดีความใหญ่ที่กล่าวหาว่าเขาและทีม DOGE ละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยการแทรกแซงการดำเนินงานของรัฐบาลกลาง เข้าถึงข้อมูลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เลิกจ้างพนักงานโดยไม่โปร่งใส และยกเลิกสัญญารัฐบาลอย่างไม่ถูกต้อง

คดีดังกล่าวถูกยื่นโดยอัยการจาก 14 รัฐ นับเป็นศึกใหญ่ที่รอเล่นงานมัสก์หลังลาออก และทำให้อนาคตของ DOGE กลายเป็นเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่

“ผมใช้เวลากับการเมืองมากเกินไป” มัสก์ กล่าวถึงความรู้สึก

ในบทสัมภาษณ์กับ Ars Technica เมื่อ 28 พฤษภาคม มัสก์ยอมรับว่าตัวเอง “ใช้เวลากับการเมืองมากเกินไปเล็กน้อย” ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Tesla เสียสมดุลในการบริหาร โดยเฉพาะเมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มซบเซาในไตรมาสแรกของปี

อย่างไรก็ตาม มัสก์ก็พยายามเบี่ยงเบนประเด็น โดยย้ำว่าบทบาทของเขาใน DOGE ถูกขยายความเกินจริงจากสื่อ พร้อมระบุว่า “ผมไม่ได้ลาออกจากบริษัท Tesla แค่ลดเวลาที่ทุ่มให้ภาครัฐลงเท่านั้น”

เมื่อมัสก์ประกาศลดบทบาทใน DOGE ในรายงานไตรมาสแรกของ Tesla หุ้น TSLA ก็เด้งขึ้นทันที 5% ในตลาดหลังปิด แม้ตัวเลขกำไรสุทธิจะร่วงลงถึง 80% สะท้อนว่านักลงทุนยังอยากเห็นมัสก์กลับมาโฟกัสบริษัทแม่มากกว่าเล่นการเมือง

ณ วันที่ 31 มีนาคม Tesla ยังคงถือ Bitcoin ไว้จำนวน 11,509 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.24 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ราคาหุ้น Tesla ในปี 2025 ยังลดลงไปแล้ว 5.9% ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และความเชื่อมั่นในตัวมัสก์ที่เริ่มสั่นคลอน

มัสก์อาจลุกจากโต๊ะ DOGE แต่เกมการเมืองยังไม่จบ

อย่างไรก็ดี การลาออกของมัสก์อาจดูเหมือนการถอยอย่างมีศักดิ์ศรี แต่แท้จริงแล้วคือการหนีออกจากความล้มเหลวที่เริ่มปรากฏชัด ทั้งเป้าหมายงบประมาณที่ไกลเกินจริง การเลิกจ้างที่โดนฟ้อง และศึกการเมืองที่พัวพันเกินตัว แม้เขาจะยังคงมีอิทธิพลทั้งในตลาดหุ้นและวงการเทคโนโลยี แต่คำถามคือ มัสก์จะหันกลับมาโฟกัส Tesla อย่างเต็มตัวจริงหรือไม่ หรือ DOGE จะกลับมาอีกในชื่ออื่นและเวอร์ชันใหม่?