แจ๊ค ดอร์ซีย์ เดินหน้าปฏิวัติระบบการชำระเงินของ Square ด้วยบิทคอยน์ เตรียมเปิดทางให้ร้านค้ารับ BTC ได้โดยตรง หรือแปลงเป็นเงินสดแบบเรียลไทม์ พร้อมดัน Lightning Network เป็นตัวเร่งสปีด ลดค่าธรรมเนียมเหลือเศษเสี้ยว พร้อมดึง Stake n’ Shake เข้าร่วมชูดจุดเด่นประหยัดค่าธรรมเนียมครึ่งต่อครึ่ง
แจ๊ค ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter และ CEO ของ Block, Inc. ประกาศเดินหน้าผลักดันบิทคอยน์เข้าสู่ระบบการชำระเงินระดับโลกผ่านแพลตฟอร์ม Square ที่ร้านค้าหลายล้านแห่งใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยแผนการใหญ่นี้จะเริ่มเปิดตัวบางส่วนในปลายปี 2568 ก่อนจะเปิดใช้เต็มรูปแบบในปี 2569
Block เปิดตัวโปรเจกต์นี้อย่างเป็นทางการบนเวที Bitcoin 2025 ที่ลาสเวกัสเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม โดยได้สาธิตการใช้งานจริงผ่านร้านค้าสินค้าของ BTC Inc. โดยพ่อค้าสามารถใช้ฮาร์ดแวร์ Square เดิมในการรับบิทคอยน์ผ่าน Lightning Network ได้ทันที ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม
ขณะที่ Lightning Network ซึ่งเป็นเลเยอร์ 2 ของบิทคอยน์ ถูกออกแบบมาเพื่อให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและถูกลง โดยธุรกรรมบิทคอยน์ผ่านเครือข่ายนี้สามารถประมวลผลได้แทบจะในทันที ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าเครือข่ายหลักหลายเท่าตัว
“ร้านค้าสามารถเลือกได้ว่าจะถือบิทคอยน์ไว้เลย หรือจะแปลงเป็นเงินดอลลาร์แบบเรียลไทม์ก็ได้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม” ดอร์ซีย์โพสต์ผ่าน X (เดิมคือ Twitter) พร้อมยืนยันว่า ระบบจะดูแลความซับซ้อนทางเทคนิคให้หมด ผู้ค้าแค่ขายของ ลูกค้าก็แค่สแกน QR ได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย
ขณะที่ ไมลส์ ซูเตอร์ หัวหน้าผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ Block ระบุว่า จุดประสงค์ของโครงการนี้ไม่ใช่แค่เพิ่มช่องทางการชำระเงิน แต่เป็นการ “เสริมอำนาจทางเศรษฐกิจ” ให้ผู้ค้าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของตนเอง โดยไม่ต้องผูกขาดอยู่กับระบบธนาคารเดิมหรือค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตที่มีอัตราสูง
เปิดเกมรุกทั้งระบบนิเวศ
นอกจากฟีเจอร์รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์แล้ว Block ยังเดินหน้าพัฒนา Bitkey กระเป๋าเงินสำหรับการดูแลตนเองที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยในเวอร์ชันล่าสุดจะไม่ใช้วลี seed phrase แบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้มือใหม่สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ “Bankless” ที่ แจ๊ค ดอร์ซีย์ เชื่อมั่นมาตลอด
Stake n’ Shake ชูจุดขาย ประหยัดครึ่งต่อครึ่ง
อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แค่ในงานประชุมหรือแผนงานบนกระดาษ เพราะ แดน เอ็ดเวิร์ด หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Stake n’ Shake เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของอเมริกา ขึ้นเวทีเดียวกันเพื่อเล่าประสบการณ์จริงที่บริษัทตัดสินใจยอมรับบิทคอยน์
โดยเขาระบุว่า “การชำระด้วยบิทคอยน์เร็วกว่าและถูกกว่าบัตรเครดิตชัดเจน เราประหยัดค่าธรรมเนียมได้ราว 50% ทุกครั้งที่ลูกค้าเลือกใช้ BTC แทน Visa หรือ Mastercard” พร้อมย้ำว่า นี่คือชัยชนะของทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า ผู้ค้า และชุมชนคริปโต
Stake n’ Shake ประกาศว่าจะเปิดรับบิทคอยน์ อย่างเป็นทางการในร้านอาหารทุกแห่งทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยถือเป็นก้าวสำคัญของวงการอาหารที่ผนวกโลกคริปโตเข้ากับชีวิตประจำวันอย่างเต็มรูปแบบ
