ฮ่องกงส่งสัญญาณแรง “พร้อมเปิดศึก Web3” เดินหน้าสู่การเป็นฮับระดับภูมิภาคสำหรับ Stablecoin ภายใต้กฎหมายควบคุมที่ชัดเจน วางมาตรการเข้ม Stablecoin ต้องมีเงินเฟียตหนุนหลังเต็มพิกัด เตรียมแจกดอกเบี้ยจูงใจนักลงทุน ผู้ผลักดันลั่น นี่แค่ก้าวแรกของ Web3 โลกใหม่ที่ฮ่องกงตั้งใจเป็นหัวหอก
ฮ่องกงประกาศเดินหน้าเต็มกำลังเข้าสู่สมรภูมิเศรษฐกิจดิจิทัล หลังสภานิติบัญญัติของเมืองไฟเขียวผ่านร่างกฎหมายควบคุม Stablecoin วาระที่สามเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการเปิดทางให้มีการออก Stablecoin ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ
จอห์นนี่ หง สมาชิกสภานิติบัญญัติและคณะกรรมการที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติของจีน เผยผ่านโพสต์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมว่า สถาบันที่มีความสนใจในการออก Stablecoin สามารถยื่นขอใบอนุญาตกับสำนักงานการเงินฮ่องกง (HKMA) ได้ภายในงวดบัญชีสิ้นปี 2567 นี้
ขณะที่กฎหมายระบุชัดว่า Stablecoin ที่จะออกภายใต้ระบบใหม่นี้ต้องได้รับการหนุนหลังด้วยสกุลเงิน fiat (สกุลเงินทั่วไปที่ออกโดยรัฐบาล) พร้อมวางกรอบระบบการอนุญาตที่ชัดเจน โปร่งใส และเน้นดึงดูดผู้ออกเหรียญจากทั่วโลกให้เข้ามาดำเนินกิจกรรมในฮ่องกง
“นี่คือก้าวยิ่งใหญ่ของฮ่องกงในการพัฒนา Web3 ในระดับโลก” หงประกาศอย่างภาคภูมิใจ พร้อมเสริมว่าเมืองกำลังวางตัวเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และเปิดกว้างสำหรับองค์กรระหว่างประเทศที่ต้องการเข้ามาทดลอง นำร่อง และใช้ประโยชน์จาก Stablecoin ภายใต้กฎหมายที่ชัดเจนและเอื้อต่อการแข่งขัน
นอกจากนี้ หงยังกล่าวถึงแนวคิดเพิ่มเติมว่า ควรอนุญาตให้นำดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินสำรองของ Stablecoin มาแจกจ่ายให้ผู้ถือเหรียญได้ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในตลาด และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันแบบสร้างสรรค์ โดยเขาเปิดช่องทางให้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเขาโดยตรงเพื่อให้การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างราบรื่น
เขายังเน้นว่า การผ่านกฎหมายฉบับนี้เป็นเพียง “ก้าวแรก” ในการปูทางสู่โครงสร้างพื้นฐาน Web3 ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในบริบทการใช้งานจริง ทั้งการขายปลีกแบบหน้าร้าน การค้าระหว่างประเทศ และการโอนเงินระหว่างบุคคล (peer-to-peer) ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการผลักดัน stablecoin ให้กลายเป็นกลไกการชำระเงินแห่งอนาคต
ด้าน HKMA คาดว่าจะออกแนวทางการอนุญาตเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเติมเต็มรายละเอียดด้านการกำกับดูแลและการดำเนินงานของผู้ออก Stablecoin ที่ต้องการความชัดเจนในระดับสูง
ขณะที่การเคลื่อนไหวของฮ่องกงครั้งนี้ เกิดขึ้นในจังหวะที่เหมาะเจาะ เมื่อทั่วโลกกำลังจับตาสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการหนุนหลังด้วยสกุลเงินเฟียต โดยเฉพาะในเขตอำนาจศาลอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์ ที่ยังไม่มีแนวทางกำกับดูแลที่เด็ดขาดหรือเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้กรอบกฎหมายของฮ่องกงจะกลายเป็นแม่แบบที่ชัดเจนและนำหน้าในเวทีโลก โดยเปิดเส้นทางให้ผู้พัฒนา Stablecoin เดินหน้าได้อย่างมั่นใจภายใต้กฎระเบียบที่แน่นอน ตอกย้ำการขยับตัวของฮ่องกงจากตลาดเสรีทั่วไป สู่การเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานการเงินโลกแบบใหม่อย่างเต็มรูปแบบ
ขณะที่การผลักดันให้มีการจ่ายดอกเบี้ยแก่ผู้ถือเหรียญ ยังอาจทดสอบขอบเขตของการกำกับดูแลว่าสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Stablecoin นั้นควรถูกจัดอยู่ในหมวดเดียวกับผลิตภัณฑ์ออมทรัพย์หรือไม่ ซึ่งอาจส่งอิทธิพลต่อรูปแบบการกำกับดูแลในเอเชียทั้งหมดในอนาคตอันใกล้