กลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นยกแผง ขายรับภาครัฐเตรียมปรับเกณฑ์โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" นำโดย
TTB บวก 2.62% มาที่ 1.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท มูลค่าซื้อขาย 245.78 ล้านบาท
BBL บวก 1.75% มาที่145.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,010.47 ล้านบาท
CREDIT บวก 1.04% มาที่ 19.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 2 ล้านบาท
KTB บวก 0.91% มาที่ 22.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 356.48 ล้านบาท
SCB บวก 0.83% มาที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 735.04 ล้านบาท
TISCO บวก 0.77% มาที่ 98.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 209.63 ล้านบาท
KBANK บวก 0.61% มาที่ 164.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,383.65 ล้านบาท
นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวออกมาว่ากระทรวงการคลังเตรียมปรับเกณฑ์โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ซึ่งจะมีการปรับทั้งในส่วนของการเพิ่มเกณฑ์ค้างจ่ายหนี้เพียง 1 วัน สามารถพักดอกเบี้ยได้ 3 ปี และขยายเพดานการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นกลุ่มหนี้เสียที่ไม่มีหลักประกันเพิ่มเป็น 10,000 บาท/บัญชี และลูกหนี้ที่มีหลักประกันที่เป็นหนี้เสียเพิ่มเป็น 30,000 บาท/บัญชี จากเดิมที่ 5,000 บาท/บัญชี และมีโอกาสที่ขยายโครงการต่อจากสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ได้อีก
โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่หนุนระยะสั้นต่อกลุ่มแบงก์ในเรื่องของแนวโน้มของคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่มีแนวโน้มลดลง และระดับของ NPL ที่อาจจะลดลงหรือทรงตัว ซึ่งช่วยเข้ามาชดเชยรายได้จากดอกเบี้ยที่ลดลง จากมาตรการดังกล่าวได้ ซึ่งการที่แบงก์มีคุณภาพสินทรัพย์ โดยเฉพาะการที่ลูกหนี้มีคุณภาพดีขึ้นก็ส่งผลบวกค่อนข้างมากต่อแบงก์
สำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่มองว่าได้รับประโยชน์ค่อนข้างมากจากการปรับเกณฑ์โครงการดังกล่าว โดยเฉพาะแบงก์ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มที่มีลูกค้ารายย่อยที่เป็นสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน เช่น TTB KTB และ SCB เป็นต้น