กรุงศรีเผยไตรมาสแรกสินเชื่อรายใหญ่-วาณิชธนกิจยังเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 5-7% แต่รับในระยะต่อไปโจทย์ท้าทายทั้งในและนอกประเทศ เน้นทำธุรกิจและเดูแล-ช่วยเหลือลูกค้าไปพร้อมๆกัน พร้อมยึด 4 แนวทางหลักดำเนินธุรกิจ
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY)เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ที่ผ่านมา ยังเติบโตสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 5-7% ที่ตั้งไว้ แต่ในปีนี้ยังคงเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะไทยซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านการลงทุนจากต่างประเทศและปัจจัยภายนอก เช่น ความผันผวนของตลาดโลก และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้น ธนาคารจึงยังดำเนินการอย่างระมัดระวังเช่นเดิม
ทั้งนี้ ปัจจัยท้าทายในระยะต่อไปยังมีอีกมากทั้งในเรื่องของภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯที่จะทำให้การค้าโลกเปลี่ยนไป รวมถึงอัตราภาษีที่ไทยจะต้องเสียที่ไทยจะได้รับภายหลังจากที่เลื่อนมาครบ 90 วัน ซึ่งหากประเทศไทยถูกเรียกจัดเก็บภาษีในระดับสูงกว่า 10%ซึ่งน่าเป็นระดับต่ำสุด ก็จะเกิดผลกระทบในวงกว้าง ขณะที่ปัญหาภายในประเทศก็ยังหนัก จากอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ลดต่ำต่อเนื่องจนคาดการณ์ปีนี้จะโตเพียง 1.5%ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของต่างขาติ รวมถึงสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้-ตลาดหุ้นไทยที่ไม่เอื้อำนวยต่อการลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นปัญหาด้านคุณภาพสินค้าที่แม้จะมีปริมาณที่มากแต่คุณภาพด้อยกว่าเดิมซึ่งถือเป็นปัญหาในเชิงธรรมาภิบาล และปัญหาทางการเมืองในประเทศที่อาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมองเซ็กเตอร์ที่ยังไปได้ดี อย่างนิคมอุตสาหกรรม, เฮลธ์แคร์, อาหาร-เครื่องดื่ม และพลังงาน ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังต้องระมัดระวัง
"สินเชื่อในปีนี้เราคงจะไม่ได้เน้นสร้างการเติบโตที่เป็นตัวเลขมาก แต่จะเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่า ไม่เน้น Quick Win แล้วก็จะเน้นดูแลเชิงลึกรวมถึงให้ความช่วยเหลือมากกว่า ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สินเชื่อของธนาคารก็ถือ In line ในเป้าหมายอยู่ ขณะที่ Demand ทางฝั่งลูกค้านั้น ในส่วนของ ESG Financial เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ต่อเนื่องไปถึงซัพพลายเชน แต่ Demand ทั่วไปชะลอลง อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังก็มีดีลที่น่าจะออกมาได้พอสมควรมาช่วยหนุน ทั้งในดีลการลงทุน Inbound - Outbound ,การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ,การขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้าในขั้นสุดท้าย ซึ่งความเชื่อมั่นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการตัดสินใจ ดังนั้น ในปีนี้หากสินเชื่อโตแตะกรอบล่างที่ 5%ก็นับว่าดีแล้ว"
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจปี 2568 ตั้งอยู่บนแนวคิด ‘Crafting Collaboration, Moving Beyond Solutions’ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการคิดและทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งให้คำแนะนำและร่วมมือกันพัฒนา กลยุทธ์และแนวทางเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ทางธุรกิจสำหรับลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ โดยไม่เพียงมุ่งเน้นการตอบสนองต่อความต้องการในระยะสั้น แต่ยังคงให้ความสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว พร้อมทั้งออกแบบแนวทางการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ ผ่านการดำเนินงานใน 4 ด้านหลัก ได้แก่
Sustainable Finance and Capacity Building – เสริมสร้างขีดความสามารถด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในมิติของ ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อสร้างโอกาสทางการเงินใหม่ๆ รองรับการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและสังคมในระยะยาว
Quality Growth – ผลักดันการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีคุณภาพ ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความต้องการของลูกค้าแต่ละราย พร้อมสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง
Investment Banking Solution – เสริมแกร่งโซลูชันการเงินเพื่อธุรกิจแบบครบวงจรผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เครือข่ายธนาคารพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (Krungsri Securities) เพื่อให้คำปรึกษาทางด้านการเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าแต่ละราย รวมถึงการให้บริการที่ปรึกษาสำหรับการซื้อขายและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions หรือ M&A) การเป็นที่ปรึกษาในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน (Equity Capital Markets) และการเป็นผู้สนับสนุนการขาย (Selling Agent) หน่วยลงทุน
Leverage MUFG & Global Network – ยกระดับการให้บริการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่ก้าวไกลยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ด้วยความร่วมมือกับทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป เครือข่ายของ MUFG และเครือข่ายระดับโลก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
และในปีนี้ กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ฯ ได้ต้อนรับหน่วยงานที่ดูแลกลุ่มลูกค้าบรรษัทข้ามชาติ หรือ Multinational Corporation (MNC) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมธุรกิจ ซึ่งพร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งร่วมกับบรรษัทข้ามชาติในภูมิภาค East Asian โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่แสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีในการขยายการลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยกรุงศรีและ MUFG พร้อมผนึกกำลังเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์สูงสุด