ซีอีโอ Blockstream และหนึ่งในตำนานผู้บุกเบิกโลกคริปโต ฟันธง! บิทคอยน์ ยังไปได้อีกไกล คาดอาจแตะ 500,000 ถึง 1 ล้านดอลลาร์ในรอบนี้ หลังสหรัฐไฟเขียว ETF เงินไหลทะลัก ดันโมเมนตัมพุ่งต่อเนื่อง ฟากไมเคิล เซย์เลอร์ เสริม ช่วงราคาดิ่งคือการสลัด "มืออ่อน" ออกไป ปูทางสู่การถือยาวโดยสถาบันใหญ่!
อดัม แบ็ค ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Blockstream รวมถึงเป็นหนึ่งในบุคคลไม่กี่คนที่เคยติดต่อกับ "Satoshi Nakamoto" ผู้สร้างบิทคอยน์โดยตรง ได้ออกโรงแสดงทัศนะในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับ Decrypt ว่าเขา “ประหลาดใจ” กับราคาปัจจุบันของบิทคอยน์ ซึ่ง ณ เวลานั้นอยู่ราว 103,300 ดอลลาร์
แบ็คเชื่อมั่นเต็มร้อยว่า BTC ถูกประเมินค่าต่ำเกินจริงในตอนนี้ และยังมีโอกาสพุ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่ง 1 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญในรอบตลาดขาขึ้นนี้
“ผมคิดว่ารอบนี้ยังอีกไกลมาก...และมันอาจไปถึงครึ่งล้านหรือหนึ่งล้านดอลลาร์ เพราะมีหลายอย่างเกิดขึ้นที่สนับสนุนการพุ่งนี้” แบ็ค กล่าวอย่างมั่นใจ
เขาอธิบายว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการอนุมัติ Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ที่ได้กลายเป็นประตูบานใหญ่ให้เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต โดยยอดไหลเข้าสุทธิจนถึงตอนนี้ทะลุไปแล้วกว่า 41,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ ETF เหล่านี้ ซึ่งจัดตั้งโดยยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง BlackRock และ Fidelity ช่วยดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ก่อนหน้านี้ยังลังเลจะถือครองคริปโตโดยตรง
นอกจากนี้ Back ยังชี้ถึงบรรยากาศทางการเมืองของสหรัฐที่เริ่มเป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงท่าทีเปิดรับนวัตกรรมในโลกดิจิทัล
“พวกนักลงทุนส่วนใหญ่ มักจะกระโดดเข้ามาหลังจากราคาขึ้นไปมากแล้ว...ถ้าราคาทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อไหร่ คุณจะได้เห็นความบ้าคลั่งแบบเดิมอีกครั้ง” เขาย้ำ โดยอิงกับพฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยที่มักไล่ราคาตามเทรนด์
แบ็ค ไม่ใช่แค่ผู้คาดการณ์ เขาคือผู้มีบทบาทโดยตรงในเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนบิทคอยน์ โดยเขาเป็นผู้คิดค้นระบบ Hashcash ซึ่งกลายเป็นรากฐานของระบบ Proof-of-Work ของ บิทคอยน์ในวันนี้
ขณะเดียวกันด้าน ไมเคิล เซเลอร์ ผู้ก่อตั้ง MicroStrategy และอีกหนึ่งแฟนพันธุ์แท้ของ BTC ก็ร่วมวงเสริมว่า การที่ราคาหล่นต่ำกว่า 150,000 ดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้สะท้อนความเสื่อมของบิทคอยน์แต่เป็น "กรองนักลงทุนขาจรออกไปจากตลาด"
“ตอนนี้บิทคอยน์จำนวนมากตกไปอยู่ในมือของหน่วยงานภาครัฐ, ทนายความ และผู้ดูแลการล้มละลาย ซึ่งไม่ได้มีวิสัยทัศน์ถือยาวแบบ 10 ปี” เซเลอร์ กล่าวในพอดแคสต์ Coin Stories
เขาอธิบายว่า คนกลุ่มนี้ใช้ช่วงราคาขึ้นเป็นจังหวะปล่อยของ ขณะที่นักลงทุนรายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ที่เน้นกลยุทธ์ระยะยาว กำลังเริ่มเข้ามาเก็บสะสม BTC ผ่าน ETF และเครื่องมือการลงทุนแบบมืออาชีพ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา BTC เคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 109,000 ดอลลาร์ ก่อนจะร่วงลงมาเหลือเพียง 76,273 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนเมษายน ทว่าเสียงจากผู้นำในวงการคริปโตยังคงชัดเจนว่า “เกมยังไม่จบ” และ “ราคานี้ยังถือว่าถูก”
เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น การยอมรับจากสถาบัน และทิศทางนโยบายรัฐที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน สัญญาณทุกอย่างบ่งชี้ว่าบิทคอยน์อาจกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ที่ราคาหลักแสนเหรียญดูจะกลายเป็นเพียงแค่ “จุดพักหายใจ” เท่านั้น