Brave Browser ยกระดับแพลตฟอร์ม Web3 จับมือ Input Output ผนวกบล็อคเชน Cardano เข้ากับกระเป๋าเงินแบบเนทีฟและแบบสแตนด์อโลน เปิดประตูสู่การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล-ร่วมกำกับดูแลเครือข่ายได้โดยตรง พร้อมหนุน Midnight บล็อคเชนสายลับตัวใหม่ เสริมความเป็นส่วนตัวแบบไร้ร่องรอย ให้ระบบนิเวศ Cardano เติบโตแบบติดปีก
Brave Browser เบราว์เซอร์ขวัญใจสายความเป็นส่วนตัว ได้ขยับเกมครั้งใหญ่ในโลก Web3 ด้วยการผนวกการรองรับ Cardano Blockchain เข้าสู่ทั้ง Brave Wallet แบบดั้งเดิม และ แบบสแตนด์อโลน อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการโทเคน ร่วมกำกับดูแลเครือข่าย และเข้าถึงสินทรัพย์บน Cardano ได้จากอินเทอร์เฟซเดียว ไม่ต้องพึ่งปลั๊กอินนอกหรือกระเป๋าเงินจากค่ายอื่น
การประกาศนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เป็นผลพวงจากความร่วมมือระหว่าง Brave และบริษัทแม่ของ Cardano อย่าง Input Output (IOHK) โดย เบรนแดน ไอช์ ซีอีโอของ Brave และผู้ร่วมก่อตั้ง Basic Attention Token (BAT) ได้ออกมาเน้นย้ำว่า
“นี่ไม่ใช่แค่การเพิ่มเครือข่ายให้กระเป๋าเงิน แต่มันคือการขยายวิสัยทัศน์ของ Web3 ให้เข้าถึงง่าย ปลอดภัย และมีส่วนร่วมกับชุมชนมากขึ้น”
ไอช์เสริมว่า Brave ยังคงมุ่งมั่นสร้างเครื่องมือให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกหลากหลาย เพื่อเชื่อมต่อกับโลกที่กระจายศูนย์อย่างแท้จริง และ การรองรับ Cardano ครั้งนี้คือหมากเด็ดที่เปลี่ยนเกมให้ Web3 ใช้งานได้จริง
ทางฝั่ง Robert Roose ผู้ก่อตั้ง Mynth Protocol ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานการทำงานร่วมกันของ Cardano ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “นี่คือช่วงเวลาทองของ Cardano” พร้อมระบุว่าการที่ Brave รองรับ Cardano อย่างเป็นทางการนั้นถือเป็น “ก้าวกระโดด” ที่จะทำให้ระบบนิเวศ Cardano เข้าถึงง่ายขึ้นและทำงานร่วมกับเครือข่ายอื่นได้มากขึ้น
Roose ชี้ว่า DApps บน Cardano จะเข้าถึงได้สะดวกผ่าน Brave Browser โดยไม่มีอุปสรรคทางเทคนิคใดๆ เพราะโครงสร้างพื้นฐานหลักของ Cardano พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานจริง
Midnight บล็อคเชนสายลับผู้พิทักษ์ความเป็นส่วนตัว
หนึ่งในไฮไลต์ของความร่วมมือนี้ คือการปูทางไปสู่การผนวกรวมกับ Midnight (NIGHT) บล็อคเชนลับระดับพระกาฬจากเครือ Cardano ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ทั้งในระดับธุรกรรมและสัญญาอัจฉริยะ
โดย Midnight ถูกพัฒนาโดย Shielded Technologies บริษัทลูกของ Input Output ที่มุ่งเน้นการสร้างสัญญาอัจฉริยะแบบ "ความลับคือพลัง" โดย Charles Hoskinson ซีอีโอแห่ง IOHK เคยเปิดเผยโมเดลธุรกิจสุดล้ำ ว่าผู้ใช้สามารถรับ NFT ตอนสมัครใช้งาน แล้วใช้ NFT นั้นเป็น "บัตรผ่าน" สำหรับทำธุรกรรมรายวันได้ฟรี
โดย Hoskinson กล่าวว่า “มันคือการนำโมเดล Web2 อย่างบัญชีใช้ฟรี แอปฟรี มาปรับใช้กับโครงสร้าง Web3 โดยไม่ต้องพึ่งโทเคนเลยด้วยซ้ำ”
Mynth ผนึก Midnight สร้างโลกใหม่ที่ไร้การติดตาม
Roose จาก Mynth ยังเปิดเผยว่า บริษัทของเขากำลังจับมือกับ Midnight เพื่อสร้างระบบแลกเปลี่ยนแบบครอสเชนที่เน้นความเป็นส่วนตัวสุดขีด โดย Midnight จะเปิดทางให้ผู้ใช้งานโต้ตอบกับสัญญาอัจฉริยะได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ทิ้งร่องรอยให้ใครติดตาม
“เรากำลังสร้าง Cardano เวอร์ชันที่ไม่ต้องเลือกระหว่างนวัตกรรมกับความเป็นส่วนตัว เพราะเราจะให้คุณมีทั้งสองอย่าง” Roose กล่าว
นอกจากนี้เขายังเสริมว่ากำลังมีโปรโตคอลและโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี zero-knowledge proof เตรียมเข้าสู่เครือข่าย Cardano อีกหลายราย ซึ่งจะยิ่งเสริมเกราะความเป็นส่วนตัวให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ
จุดเริ่มต้นของพายุแห่งการเปลี่ยนแปลงโลกบล็อกเชนบน Web3
โพสต์ประกาศจาก Brave ระบุชัดว่านี่คือ “จุดเริ่มต้นของความร่วมมือระยะยาว” ระหว่าง Brave และ Input Output ที่จะเปิดทางสู่นวัตกรรมใหม่ ในการมีส่วนร่วมกับการกำกับดูแลของทั้ง Cardano และ Midnight
ขณะที่ Eran Barak ซีอีโอของ Midnight เคยกล่าวกับ Cointelegraph ว่าความโปร่งใส ซึ่งเป็นจุดขายของบล็อคเชน กลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในหลายภาคส่วน เช่น ธุรกิจและการแพทย์ เพราะข้อมูลเมตาสามารถเปิดเผยตัวตนและพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้
นอกจากนี้ Midnight จึงถูกออกแบบมาเพื่อลบ “รอยเท้าดิจิทัล” ของผู้ใช้ แต่ยังคงรักษาความสามารถของบล็อคเชนในการตรวจสอบและสร้างความน่าเชื่อถือไว้ครบถ้วน เป็นตัวแทนของวิวัฒนาการใหม่ของ Web3 ที่ไม่แค่ปลอดภัย แต่ยัง “ปลอดการจับจ้อง” อีกด้วย
อย่างไรก็ดี ความร่วมมือระหว่าง Brave และ Cardano ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นหมุดหมายสำคัญของ Web3 แต่ยังเป็นคำประกาศว่า “โลกของ Web2 ที่รวมศูนย์ ใกล้ถึงเวลาต้องคืนอำนาจให้กับผู้ใช้งานเสียที และยกระดับสู่การกระจายศูนย์อย่างแท้จริง”
