ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หุ้นที่มีพฤติกรรมปั่น เลือนหายไป จนแทบลืมไปแล้วว่า หุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงและเข้าข่ายปั่นมีลักษณะอย่างไร กระทั่งหุ้น บริษัท ดีวี 8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 ถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรง ราคาขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% หลายวันติดต่อกัน ความทรงจำในยุคเฟื่องฟูของหุ้นปั่นจึงหวนกลับมา
DV8 เป็นหุ้นที่ล้มลุกคลุกคลาน นับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2522 โดยเดิมชื่อ บริษัท เอเชีย จอยท์ พาโนรามา จำกัด ชื่อย่อ AJP ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซิโน-ไทย รีซอร์เซส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ STRD
หลังจากนั้นกลับไปเปลี่ยนเป็นหุ้น AJP อีกครั้ง และเปลี่ยนชื่อใหม่อีกเป็น บริษัท ดีมิเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP แต่ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเป็น DV8 โดยมีนายบุญชัย เกษมวิลาศ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 สัดส่วนถือหุ้น 27.45% ของทุนจดทะเบียน และนางสาวสุนันท์ งามอัครกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในสัดส่วน 12.90% ของทุนจดทะเบียน
ผู้ถือหุ้นรายย่อยบมีจำนวนทั้งสิ้น 2,399 คน สัดส่วนถือหุ้นรวมกัน 30.55% ของทุนจดทะเบียน
ผลประกอบการ DV8 ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาย่ำแย่ ขาดทุนต่อเนื่อง แต่ปี 2567 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 3.43 ล้านบาท ขณะที่ปี 2566 ขาดทุน 35.55 ล้านบาท และไตรมาสแรกปี 2568 ขาดทุน 20.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 8.15 ล้านบาท
ราคาหุ้น DV8 เคลื่อนไหวอยู่แถว 30 สตางค์เศษ ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางมาก โดยบางวันซื้อขายเพียงไม่กี่พันบาท เพราะเป็นหุ่นที่ไม่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนทั่วไป และปัจจัยพื้นฐานหรือผลประกอบการไม่ดีนัก
วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา หุ้น DV8 ปิดที่ 35 สตางค์เท่านั้น แต่หลังจากนั้น เริ่มมีการจุดพลุไล่ราคา จนหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ก่อนราคาพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง นับตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม โดยขึ้นชนเพดานสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
แม้วันที่ 15 พฤษภาคม หลังจากที่บริษัท ฯ ชี้แจงข้อสอบถามของตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับข่าวลือบริษัทญี่ปุ่นจะเข้าครอบงำกิจการหรือเทกโอเวอร์ โดยปฏิเสธข่าวลือ
และตลาดหลักทรัพย์ ฯ ได้ออกประกาศเตือนนักลงทุน ให้ใช้ความรอบคอบก่อนตัดสินซื้อขายหุ้น DV8 แต่ราคาหุ้นก็ยังถูกลากขึ้นไปชนเพดานสูงสุดอีกในช่วงแรก ๆ ที่เปิดการซื้อขาย ก่อนจะถูกทุบลงในการซื้อขายภาคบ่าย จนราคาร่วงลงมาปิดที่ 2.78 บาท ลดลง 0.92 บาท หรือลดลง 24.86%
จากราคาต่ำสุดในรอบปีที่ถูกทุบลงไปเหลือ 35 สตางค์ ช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน ถูกลากขึ้นมาที่ 4.80 บาท เพิ่มขึ้น 4.55 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1300% และครองความเป็นหุ้นร้อนแรงที่สุดในปี 2568
เบื้องหลังความร้อนแรงหุ้น DV8 ไม่ใช่การเก็งกำไรตามปกติ ไม่น่าจะเกิดจากนักลงทุนรายย่อยที่แห่กันเข้าไปไล่ซื้อ แต่มีกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง ปลุกผีหุ้น DV8 ขึ้นมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์จะต้องตามไปตรวจสอบ และตามล่าคนหรือกลุ่มคนที่ลากนักลงทุนรายย่อยเข้าไปเชือด
การสอบถามถึงข่าวลือหรือพัฒนาการใดที่มีผลต่อราคาหุ้น รวมทั้งการออกประกาศเตือนนักลงทุนในหุ้น DV8 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ทำตามหน้าที่อย่างดีแล้ว
แต่สิ่งที่นักลงทุนตั้งคำถามคือ เหตุใดตลาดหลักทรัพย์ จึงนั่งดูการลากหุ้น DV8 อยู่นาน ทำไมไม่ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนในทันทีที่เห็นความผิดปกติ ทั้งราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น
ทำไมตลาดหลักทรัพย์จึงปล่อยให้นักลงทุน เข้าไปเล่นกับหุ้นอันตราย โดยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายไม่ให้กระจายในวงกว้างตั้งแต่เริ่มต้น
หุ้น DV8 กำลังเดินทางกลับบ้านเก่าแล้ว นักลงทุนรายย่อยที่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร และเทขายหนีไม่ทัน คงได้รับบาดเจ็บหนัก ซึ่งต้องตำหนิตลาดหลักทรัพย์
เพราะถ้าระบบเตือนภัยของตลาดหลักทรัพย์ตื่นตัวเร็วกว่านี้ ระบบการทำงานเร็วกว่านี้ หุ้นอันตราย DV8 คงไม่ถูกลากขึ้นมาไกลถึงสุดยอดดอย และปลุกให้นักลงทุนมีความรู้สึกว่า หุ้นปั่นไม่มีวันตายจริง ๆ
